ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
ปาเถยยสูตร: บ่วงแห่งความอยาก
(ท่อนแรก)
ศรัทธาเป็นแสงส่องนำทาง
ความเพียรพยายาม สร้างสรรค์ชีวิต
แต่ความอยากคือบ่วงรัดร้อย
จิตใจหลงใหล ไม่รู้จักพอ
(ท่อนสอง)
ทรัพย์สมบัติมากมาย ก็ไม่พอ
ยิ่งได้ยิ่งอยาก ยิ่งต้องการ
ความสุขอยู่ที่ใจ ไม่ใช่สิ่งของ
ปล่อยวางความอยาก จิตใจจะเบิกบาน
(ท่อนสาม)
ความอยากเป็นเหมือนไฟเผาไหม้
ทำลายจิตใจให้มืดมน
ฝึกฝนใจให้สงบ
ปล่อยวางความอยากให้สิ้น
(ท่อนสี่)
เมื่อใจเป็นอิสระ จากกิเลสทั้งหลาย
ความสุขที่แท้จริง จะปรากฏ
แสวงหาความรู้ ปฏิบัติธรรม
ชีวิตจะพบทางสว่าง
ปาเถยยสูตรที่ ๙
[๒๑๕] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง อะไรหนอเป็นที่มานอน
แห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย อะไรหนอย่อมเสือกไสนรชนไป
อะไรหนอละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติดอยู่ในอะไร
เหมือนนกติดบ่วง ฯ
[๒๑๖] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง ศิริ (คือมิ่งขวัญ) เป็นที่
มานอนแห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย ความอยากย่อมเสือกไส
นรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติด
อยู่ในความอยาก เหมือนนกติดบ่วง ฯ
สาระสำคัญของปาเถยยสูตรที่ 9
ในปาเถยยสูตรที่ 9 นี้ เทวดามีคำถามถึงสิ่งต่างๆ ที่เป็นเหมือนเสบียง เป็นที่ยึดเหนี่ยว และเป็นสิ่งที่มนุษย์หลงติดอยู่ พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า:
ศรัทธา เป็นเสบียง: ศรัทธาเป็นเหมือนเสบียงที่นำพาให้เราไปสู่สิ่งที่ดีงาม
ศิริ (ความรุ่งเรือง) เป็นที่มานอนของโภคทรัพย์: ความมุ่งมั่นและความเพียรจะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่งคั่ง
ความอยาก เป็นสิ่งที่คอยยั่วยวน: ความอยากเป็นเหมือนบ่วงที่รัดร้อยจิตใจของมนุษย์ ทำให้เราหลงติดอยู่ในวัฏฏสงสาร
ความยากในการละความอยาก: ความอยากเป็นสิ่งที่ยากแก่การละทิ้ง เพราะมันฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของมนุษย์
สรุป: พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของศรัทธาและความเพียรในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งเตือนถึงอันตรายของความอยาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์ทุกข์
การนำหลักธรรมในปาเถยยสูตรที่ 9 ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
สร้างศรัทธา: การมีศรัทธาในสิ่งที่ดีงาม จะเป็นแรงผลักดันให้เราทำความดีและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
มีความเพียร: ความเพียรเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในทุกๆ ด้านของชีวิต
ระวังความอยาก: ความอยากเป็นต้นเหตุของความทุกข์ การฝึกควบคุมความอยากจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ปล่อยวาง: เมื่อเกิดความอยากขึ้นมา ควรฝึกฝนตัวเองให้ปล่อยวางความอยากนั้น ไม่ยึดติดกับมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น