ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
(Verse 1)
เสียงเพลงไทย ขับขานกังวานไป
บอกเล่าความฝันไกล ข้ามขอบฟ้า
ฝันที่มี AI เคียงข้างในทุกครา
สร้างฝันให้ศิลปินก้าวไกล
(Verse 2)
แม้เราคือตลาดเล็กแต่ใจใหญ่
ด้วยเสียงที่บอกเล่าความภาคภูมิไทย
เชื่อมต่อกันในเครือข่ายกว้างใหญ่
สู่โลกนี้ที่เราไม่เคยหยุดฝัน
(Chorus)
เราคือสปอตไลท์ไทยในโลกใหม่
ขับเคลื่อนเพลงไทยให้ไกลกว่าวันวาน
ทรัพย์สินทางใจที่เคยเงียบงัน
สร้างรากฐานดนตรีไทยไม่สิ้นไป
(Verse 3)
เมื่อทุกเพลงที่ขับขานเป็นสะพาน
พาเราออกไปสู่แดนไกล
แม้ AI เข้ามาเปลี่ยนทุกลายไทย
เรายังยืนหยัดไว้ด้วยหัวใจ
(Outro)
เราคือสปอตไลท์ไทยที่ไม่เคยหยุด
แม้จะเล็กแต่ใจเราไม่ย่อท้อ
ขับขานเพลงไทยดังข้ามขอบฟ้า
ให้โลกรู้ว่าเพลงไทยยังคงมั่นคง
บทความวิชาการ: "วิเคราะห์วิธีการสร้างสปอตไลท์ให้เพลงไทยก้าวสู่ยุคใหม่ เพื่อรับมือความท้าทายของธุรกิจเพลงในยุคเอไอ"
บทนำ
อุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดโลก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 กระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ได้เปิดการประชุม IFPI Asia-Pacific Regional Board Meeting ณ กรุงเทพฯ เพื่อหารือแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมเพลงไทยในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของวงการดนตรี การประชุมครั้งนี้เน้นการส่งเสริมศักยภาพเพลงไทยโดยให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดันเพลงไทยสู่เวทีโลก
การสร้างสปอตไลท์ให้เพลงไทยในยุคใหม่
เพลงไทยเป็นที่รู้จักในตลาดเอเชียและระดับโลกมากขึ้นจากการเติบโตของวงการดนตรีไทยและการสนับสนุนเชิงนโยบายจากรัฐบาล ในปี 2023 ตลาดเพลงไทยมีมูลค่าสูงสุดในอาเซียน (107.7 ล้านดอลลาร์) การที่รัฐบาลเล็งเห็นถึงบทบาทเพลงไทยเป็น "ซอฟต์พาวเวอร์" หรือกำลังอ่อนในการสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนให้เกิดแนวทางพัฒนาต่อไปในอนาคต
กลยุทธ์การสร้างสปอตไลท์สำหรับเพลงไทย
ส่งเสริมการพัฒนาและสร้างสรรค์ Music IP
การสร้างทรัพย์สินทางดนตรี (Music IP) และการกำกับดูแลลิขสิทธิ์ที่โปร่งใสจะช่วยให้ศิลปินและบริษัทเพลงไทยมีรายได้ที่ยั่งยืน ขณะเดียวกันควรสร้างความเข้าใจในระบบนิเวศดนตรีไทยให้แข็งแกร่งขึ้น ส่งเสริมการบริหารลิขสิทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับค่ายเพลงระดับโลก
การเชื่อมโยงกับค่ายเพลงใหญ่ เช่น Sony Music, Universal Music และ Warner Music จะช่วยให้ศิลปินไทยมีโอกาสเข้าสู่ตลาดสากล และทำให้ผลงานได้รับการยอมรับในวงกว้าง
การใช้ AI ในการสนับสนุนการผลิตเพลง
แม้ว่า AI จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย แต่การปรับใช้ AI ในการผลิตเพลงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอนเทนต์และส่งเสริมการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเข้าใจผู้ฟังในแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น
การพัฒนากฎหมายลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม
การจัดทำร่างกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส จะส่งเสริมการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้ใช้งาน
ส่งเสริมการจัดกิจกรรมดนตรีไทยในต่างประเทศ
การจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมดนตรีในต่างประเทศจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการยอมรับและขยายตลาดใหม่ๆ ช่วยให้เพลงไทยมีการเข้าถึงและส่งเสริมศิลปินไทยให้เป็นที่รู้จัก
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
การพัฒนาทักษะและความเข้าใจใน AI สำหรับนักดนตรีและผู้สร้างสรรค์เพลง
กระทรวงพาณิชย์ควรจัดฝึกอบรมเพื่อให้ศิลปินและผู้ผลิตเพลงเข้าใจการใช้งาน AI ในการผลิตดนตรี เช่น การใช้ AI สร้างดนตรีในแนวทางที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ไทย
การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา Music IP ของไทย
การวิจัยเพื่อพัฒนาแนวเพลงไทยให้เหมาะสมกับตลาดสากล ควรสนับสนุนการผลิตและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาทางดนตรี เพื่อให้ศิลปินไทยได้รับผลประโยชน์ที่ยั่งยืนจากผลงาน
จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกับประเทศพันธมิตร
ควรสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในประเทศอื่นเพื่อสร้างโอกาสให้เพลงไทยได้รับการแนะนำในงานเทศกาลดนตรีนานาชาติ
สรุป
การพัฒนาอุตสาหกรรมเพลงไทยในยุค AI จำเป็นต้องสร้างสปอตไลท์ด้วยการสนับสนุนเชิงนโยบายเพื่อดันเพลงไทยให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือซอฟต์พาวเวอร์ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ การบริหารทรัพย์สินทางปัญญาที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างความร่วมมือกับค่ายเพลงระดับโลกจะช่วยให้อุตสาหกรรมเพลงไทยยืนหยัดและเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดสากล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น