วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เป็นจริงหรือน้ำหวาน! "ชูศักดิ์" มอบมรรคแปด "พศ." เน้น "คุ้มครองพุทธ -แก้ปัญหาที่ดินวัด"


เมื่อวันที่  31 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมคณะประกอบ ดร.นิยม เวชกามา อดีตส.ส.จังหวัดสกลนคร พรรคเพื่อไทย คณะที่ปรึกษา  โดยมี นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัด 76 จังหวัด  พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับ

นายอินทพร จั่นเอี่ยม ได้กล่าวรายงานโดยสรุปถึงพันธกิจ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า  สำนักงานพระพทุธศาสนาแห่งชาติมีนโยบายสำคัญ 5 ประการคือ  หนึ่งเสริมสร้างให้สถาบันและกิจการทางพระพุทธศาสนามีความมั่นคงและยั่งยืน สอง ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาสงฆ์และเการเผยแผ่ สาม การจัดการศึกษาคณะสงฆ์เพื่อผลิตศาสนทายาท สี่ พัฒนาพุทธมนฑลให้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก และห้า  จัดการศาสนสมบัติกลาง  พร้อมกับกล่าวถึงงบประมาณประจำปีพุทธศักราชที่ได้รับจำนวน 5,466 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงบอุดหนุนกิจการคณะสงห์ตามภารกิจ 6 ด้าน ในขณะที่คณะสงฆ์ปัจจุบันมีทั้งหมด 273,298 รูป จำนวนวัดแบ่งเป็นมหานิกาย 38,934 วัด ธรรมยุติกนิกาย 4,588 วัด จีนนิกาย 16 วัด อนัมนิกาย 25 วัด ส่วนการขับเคลื่อนนโยบายอาทิ โครงการคิลานุปัฎฐาก ฐานข้อมูลพระภิกษุสงฆ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในวัดตามโครงการอารามภิรมย์ เป็นต้น


ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล  ได้กล่าวตอบและพร้อมมอบนโยบายว่า  การกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถือว่าเป็นบุญของเรา เพราะได้ใกล้ชิดกับคนที่ทำงานด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกับพระสงฆ์ ตอนแรกคิดว่าการได้ทำงานตรงนี้คิดว่าจะสบายร่มเย็น วันแรกที่เข้ามาทำเนียบเจอเรื่องร้อนเลยคือ เรื่องดิไอคอน ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว  ซึ่งก่อนจะพูดถึงโยบาย ต้องดูรัฐธรรมนูญ 67 ที่ระบุไว้ว่า รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีกาฟรบ่อนทําลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย

“สำหรับ นโยบายสำคัญเรื่องแรก ผมมีความรู้สึกว่า การทำลายพระพุทธศาสนามิได้เกิดจากบุคคลภายนอก แต่เกิดจากบุคคลภายในของเรา ตรงนี้อยากให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ  ทำอย่างไร จึงจะป้องกันมิให้เกิดอันตรายต่อพระพุทธศาสนาของเราในภาพรวม เรื่องที่สอง ปัญหาที่ดินวัด ปัญหานี้สำผัสได้ตั้งแต่เป็น ส.ส.แล้ว ปัญหาที่ดินวัดทับซ้อน เช่น ทับพื้นที่ป่า สปก. ที่ดินสาธารณะ  การแก้ปัญหาทีละวัดไม่จบ จึงคิดว่า ควรตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาชุดหนึ่งให้เป็นวาระแห่งชาติ เชิญมาทุกหน่วยงานมาเป็นคณะกรรมการ เช่น กรมที่ดิน กระทรวงทรัพย์ กระทรวงเกษตร  คิดว่าหากทำได้แบบนี้จะแก้ได้ทั้งระบบ  ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีต้องลงนามแต่งตั้ง นโยบายที่สาม แนวทางการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาเรื่องนี้ของฝากสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติว่า จำต้องมีระเบียบแบบแผน กฎเกณฑ์ อย่าใช้ดุลพินิจส่วนตัว เพราะมันจะถูกตั้งคำถาม  นโยบายที่สี่ เรื่องสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชนตรงนี้อยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการให้เป็นประโยชน์กับประชาชนจริง ๆ อันนี้ส่วนแรก ส่วนที่ 2 อันต้องดูกฎกติกาว่ามันจะต้องแก้ไขอย่างไร เรื่องบวช ประเพณีให้มันได้ประโยชน์จริง ลดเลิกสิ่งที่ไม่มีสาระ ให้เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนา เรื่องที่ห้า การปรับโครงสร้างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดียวเราก็คงต้องมาดูกัน เรื่องที่หก เรื่องศาสนสมบัติ เรืองวัดให้เป็นศูนย์กลางชุมชนอย่างแท้จริง ทำอย่างไรให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เรื่องที่เจ็ด องค์พระประธาน อันนี้ต้องบูรณะโดยเฉพาะฐานพระประธานที่มีรอยร้าว ซึ่งเท่าที่ทราบกรมศิลป์มาดูเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ 8 เป็นนโยบายของรัฐบาล เลย คือ การบูรณาการการทำงานร่วมกัน การใช้ระบบไอที การทำงานทะเบียนของพระสงฆ์ สรุปใจความสำคัญคือ เน้น คุ้มครองพระพุทธศาสนาตามรัฐธรรม แก้ไขที่ดินวัด  และการ สร้างกฎระเบียบกติกา ดูแลวัด บูรณะพระอาราม ให้มีความเหมาะสม..”


 อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการตามนโยบาย 8 ข้อที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยมุ่งเน้นการประเมินศักยภาพในการนำไปปฏิบัติจริงของนโยบายเหล่านี้ พร้อมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของสังคมในปัจจุบัน

การวิเคราะห์นโยบาย 8 ข้อที่มอบให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

การป้องกันภัยจากภายในที่กระทบต่อพระพุทธศาสนา

นายชูศักดิ์ได้แสดงข้อกังวลว่าการคุกคามต่อพระพุทธศาสนาในปัจจุบันมาจากบุคคลภายใน ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาการบริหารจัดการที่อาจขาดประสิทธิภาพและความโปร่งใส ข้อเสนอแนะคือการสร้างกลไกที่เน้นการตรวจสอบและการป้องกันปัญหาภายในองค์กรอย่างเข้มงวด เช่น การเสริมสร้างความเข้าใจและการสื่อสารภายในคณะสงฆ์ รวมถึงการวางแนวทางเพื่อป้องกันการละเมิดพระธรรมวินัยอย่างเป็นระบบ

ปัญหาที่ดินวัดและการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ

ปัญหาที่ดินวัดที่ทับซ้อนกับที่ดินของหน่วยงานอื่น ๆ เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน การตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ข้อเสนอแนะคือการกำหนดแนวทางและขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบและการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

แนวทางการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา

ข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างมาตรการและกฎระเบียบที่เข้มงวดในการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ข้อเสนอแนะคือการสร้างมาตรการและระเบียบที่ครอบคลุมการดำเนินงานทุกภาคส่วนของกิจการพุทธ โดยมีกลไกตรวจสอบที่เข้มงวดและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชน

นโยบายนี้มุ่งเน้นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างตรงไปยังประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขกฎระเบียบที่ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ข้อเสนอแนะคือการพัฒนาโครงการที่เข้าถึงง่ายและใช้สื่อสมัยใหม่ในการเผยแผ่ธรรมะ พร้อมทั้งส่งเสริมกิจกรรมที่ดึงดูดให้คนหนุ่มสาวเข้ามาสนใจการศึกษาพระพุทธศาสนา

การปรับโครงสร้างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

การปรับโครงสร้างองค์กรเป็นนโยบายที่สำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งควรมีการวางแผนที่ละเอียดรอบคอบ โดยข้อเสนอแนะคือการประเมินประสิทธิภาพของโครงสร้างเดิม และกำหนดแนวทางการปรับปรุงที่เน้นประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน

การจัดการศาสนสมบัติและการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางชุมชน

การส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางชุมชนจะช่วยให้วัดมีบทบาทสำคัญในสังคม ซึ่งข้อเสนอแนะคือการพัฒนาโครงการที่ส่งเสริมให้วัดมีการจัดกิจกรรมสาธารณะที่มีประโยชน์ต่อชุมชนและส่งเสริมการเรียนรู้ธรรมะในชุมชน

การบูรณะฐานองค์พระประธาน

การบูรณะวัตถุศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งควรมีการกำหนดงบประมาณที่เพียงพอ และการจัดทำแผนการบูรณะที่มีรายละเอียดชัดเจนและปฏิบัติได้จริง

การบูรณาการการทำงานร่วมกันและการใช้ระบบไอทีในทะเบียนสงฆ์

การนำระบบไอทีมาใช้ในทะเบียนสงฆ์จะช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อเสนอแนะคือการพัฒนาระบบที่มีความปลอดภัยสูงและใช้งานง่าย รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถใช้ระบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อสรุปและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

นโยบายทั้ง 8 ข้อที่รัฐมนตรีมอบแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปสู่การพัฒนาการบริหารจัดการกิจการพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน หากมีการกำหนดเป้าหมายและวิธีการที่ชัดเจนในแต่ละนโยบาย รวมถึงการสร้างกลไกการตรวจสอบและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงระบบการเผยแผ่ธรรมะผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่และการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ในยุคปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญ ข้อเสนอแนะหลักคือการกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นแต่ชัดเจนในการตอบสนองต่อความต้องการของสังคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วราวุธ" เผย พม.จับมือ พศ.- กรมการศาสนา ตั้งศูนย์คุ้มครองเด็กและสามเณร สร้างพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนหากถูกละเมิด

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมยุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็ก ...