วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - เจตนาสูตรที่ ๑ - ๓ : "การเข้าใจเจตนาและอารมณ์ภายใน: การพัฒนาวิถีทางสู่ความพ้นทุกข์ตามแนวพระพุทธศาสนา"

  ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  

 "การเข้าใจเจตนาและอารมณ์ภายใน: การพัฒนาวิถีทางสู่ความพ้นทุกข์ตามแนวพระพุทธศาสนา"


บทนำ


บทความนี้มุ่งเน้นการอธิบายหลักธรรมเจตนาสูตรที่ ๑ - ๓ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 16 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 8 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค โดยเนื้อหาในเจตนาสูตรเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของวิญญาณและการเวียนว่ายตายเกิดซึ่งมีต้นเหตุจากเจตนา การจงใจและการครุ่นคิด โดยเฉพาะเมื่อบุคคลมีความตั้งใจในสิ่งใดเป็นประจำ วิญญาณและรูปนามจึงเกิดขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นภพใหม่และทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิต การพิจารณาหลักธรรมนี้จะช่วยให้เรามองเห็นแนวทางในการลดละและทำลายความทุกข์


เจตนาสูตรที่ ๑: การเกิดขึ้นแห่งวิญญาณด้วยเจตนา


พระพุทธองค์ตรัสว่า ความตั้งมั่นของวิญญาณมีรากฐานอยู่ที่เจตนาและอารัมณปัจจัย เมื่อบุคคลจงใจครุ่นคิดในสิ่งใดๆ สิ่งนั้นจะเป็นพลังให้อยู่ในสภาวะแห่งการเกิดและการเสื่อม ดังนั้นหากบุคคลสามารถควบคุมและจัดการกับอารัมณปัจจัยนี้ได้ จะช่วยหยุดวงจรแห่งความทุกข์และการเกิดใหม่


เจตนาสูตรที่ ๒: การเกิดนามรูปและความสัมพันธ์ระหว่างขันธ์


การเจริญของวิญญาณและนามรูปจะเกิดขึ้นเมื่อตัณหาและความยึดติดดำรงอยู่ ซึ่งการมีอยู่ของตัณหาทำให้เกิดการรับรู้สัมผัส (ผัสสะ) ที่ทำให้บุคคลเกิดเวทนา (ความรู้สึกสุขทุกข์) และตัณหานี้เองที่เป็นปัจจัยให้เกิดภพและทุกข์ในรูปแบบต่าง ๆ หากบุคคลไม่ต้องการให้เกิดทุกข์ จำเป็นต้องลดละการยึดติดและเข้าใจการทำลายรากฐานของการเกิดขึ้นนี้


เจตนาสูตรที่ ๓: การเวียนว่ายตายเกิดและความดับแห่งทุกข์


พระพุทธองค์ทรงชี้ว่า เจตนาและความตั้งใจที่ถูกสะสมไปตามกาลเวลาเป็นปัจจัยให้บุคคลเวียนว่ายตายเกิด การมีจิตตัณหาและความยึดมั่นในสิ่งใดเป็นประจำนำไปสู่การเกิดใหม่และการสร้างภพต่อเนื่อง การตัดการตั้งมั่นเหล่านี้จึงเป็นแนวทางในการเข้าสู่การพ้นทุกข์และการดับทุกข์


หลักธรรมและแนวคิดเชิงปรัชญาในเจตนาสูตรที่ ๑ - ๓ สำหรับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน


การสังเกตเจตนาและความคิดของตนเอง: ควรสำรวจว่าตนเองกำลังจงใจคิดถึงเรื่องใด และพยายามลดละความคิดที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ ควรมองหาสิ่งที่สร้างสันติสุขให้แก่ตนเองและผู้อื่น

ฝึกการวางอารัมณปัจจัยให้เหมาะสม: การเปลี่ยนแปลงการตั้งมั่นทางวิญญาณจะช่วยให้เราคลายความทุกข์ ควรฝึกความตั้งใจในเรื่องที่สร้างสรรค์และการไม่ยึดติดกับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์

ปฏิบัติตนในวิถีทางที่ลดตัณหาและความยึดมั่น: ฝึกการมีชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง สร้างความพอใจในปัจจุบันแทนการไล่ตามความปรารถนาที่ไม่สิ้นสุด

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย


การนำหลักธรรมนี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนานโยบายที่มุ่งเน้นให้บุคคลในสังคมมีความสุขและคลายทุกข์ สามารถดำเนินได้โดยการส่งเสริมหลักการใช้ชีวิตที่สมดุล และการสนับสนุนให้ผู้คนฝึกฝนความเข้าใจในตนเอง เช่น:


นโยบายส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจ: สนับสนุนให้ประชาชนฝึกการรู้จักตนเองและวางเป้าหมายที่สร้างสุขให้สอดคล้องกับหลักการพระพุทธศาสนา

นโยบายการลดความฟุ้งเฟ้อในสังคม: ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย หลีกเลี่ยงการแข่งขันในเรื่องที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนเข้าใจคุณค่าแท้ของชีวิต

การสร้างความตระหนักในหลักธรรม: กระตุ้นให้หน่วยงานการศึกษาบรรจุหลักธรรมเหล่านี้ในหลักสูตร เพื่อปลูกฝังการเข้าใจและการลดละทุกข์ในจิตใจตั้งแต่เยาว์วัย

เนื้อเพลง:

"วิถีแห่งความพ้นทุกข์"


(ทำนองเศร้า สงบ มีความสุขุม)


Verse 1

ที่ในจิตใจมีอารมณ์วนเวียน

ที่ผ่านวันคืนยังคิดวนซ้ำไป

เมื่อมีเจตนา วิญญาณจึงตั้งมั่น

ทุกข์เกิดไม่สิ้น เหมือนคลื่นน้ำทะเลไกล


Chorus

ขอปล่อยวางความยึดเหนี่ยว

ให้ทุกข์จางหายไปในตา

ตั้งจิตมั่นในความสงบ

ดั่งแสงทองที่ส่องในใจ


Verse 2

เมื่อใจไม่จงใจในสิ่งใด

ที่ทำให้ทุกข์นั้นอยู่ในทาง

วิญญาณไม่ตั้งมั่นในทุกข์

ทุกข์ก็จางลง เหมือนคลื่นลมพัดพาไป


Chorus

ขอปล่อยวางความยึดเหนี่ยว

ให้ทุกข์จางหายไปในตา

ตั้งจิตมั่นในความสงบ

ดั่งแสงทองที่ส่องในใจ


Outro

ดั่งความสุขที่ปล่อยลอยไป

ในดวงใจพบความสงบแท้

วิถีแห่งความพ้นทุกข์

ชีวิตนี้ที่ห่างไกลทุกข์

  เอกสารอ้างอิง

พระไตรปิฎกเล่มที่ 16 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 8 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค     https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=16&A=1730, https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=16&A=1751, https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=16&A=1781   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์

  วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23: พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พระไตรปิฎกเล...