ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
คลิกฟังเพลงที่นี่
บทความทางวิชาการ: “การพิจารณาสาเหตุแห่งสุขและทุกข์ตามภูมิชสูตร: การประยุกต์ใช้ในการพัฒนาจิตใจและสังคม”
บทคัดย่อ
ภูมิชสูตรในพระไตรปิฎกเล่มที่ 16 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 8 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เป็นคำสอนที่กล่าวถึงแหล่งที่มาของสุขและทุกข์ โดยในสูตรนี้ ท่านพระสารีบุตรชี้ให้เห็นว่าการเกิดขึ้นของสุขและทุกข์นั้นเป็นผลจาก "ผัสสะ" หรือการกระทบทางประสาทสัมผัส กล่าวคือ สัมผัสที่มนุษย์มีต่อสิ่งต่างๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือจิตใจ ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์
เนื้อหาและหลักธรรมสำคัญในภูมิชสูตร
พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิบายว่าความสุขและความทุกข์เป็นผลมาจากเหตุปัจจัย ซึ่งปัจจัยสำคัญคือผัสสะ หรือสัมผัสทั้งทางกายและใจ ภูมิชสูตรได้ให้มุมมองสำคัญในแง่ของ "กรรมย่อมบัญญัติ" ในลักษณะต่างๆ คือ การกระทำตนเอง การกระทำโดยผู้อื่น การกระทำผสม และการเกิดขึ้นของสุขและทุกข์ที่ไม่ได้เกิดจากตนหรือผู้อื่นโดยตรง
ภูมิชสูตรชี้ให้เห็นว่า การมีผัสสะเป็นปัจจัยนั้นถือว่าเป็นข้อสำคัญ ซึ่งตรงกับหลักธรรมเรื่อง "ปฏิจจสมุปบาท" หรือการเกิดขึ้นของธรรมด้วยอาศัยเหตุปัจจัย
พระผู้มีพระภาคทรงอธิบายให้เข้าใจว่า เมื่ออวิชชา (ความไม่รู้) ลดลงหรือละไปแล้ว สุขและทุกข์ที่เกิดจากความจงใจในกาย วาจา และใจนั้นจะลดลงตามไปด้วย
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ส่งเสริมการฝึกฝนจิตใจเพื่อการลดทุกข์: การพัฒนานโยบายที่สนับสนุนการฝึกสมาธิและการศึกษาเรื่องปฏิจจสมุปบาทจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสุขและทุกข์ ลดความยึดมั่นในอารมณ์และปฏิกิริยาที่เกิดจากผัสสะ
สนับสนุนโครงการด้านจิตวิทยาและการฝึกปัญญา: การฝึกปัญญาและการควบคุมอารมณ์ตามแนวทางภูมิชสูตรจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจสุขและทุกข์อย่างมีเหตุผล จัดการกับผัสสะและความคิดในเชิงสร้างสรรค์
บูรณาการหลักคำสอนกับการศึกษา: การสอนให้เยาวชนเข้าใจหลักปฏิจจสมุปบาทและการควบคุมปฏิกิริยาทางอารมณ์เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยสติปัญญาและความเข้าใจ
การประยุกต์ใช้ภูมิชสูตรในชีวิตประจำวัน
ฝึกสติในชีวิตประจำวัน: นำหลักปฏิจจสมุปบาทและผัสสะมาใช้ในการสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในใจจากผัสสะ เช่น เมื่อเกิดอารมณ์โกรธจากคำพูดผู้อื่น ควรสังเกตถึงที่มาของอารมณ์นั้นและตั้งสติ ไม่ให้เกิดการกระทำที่เป็นผลของโทสะ
เพิ่มความรู้และความเข้าใจในอารมณ์ตนเอง: การเข้าใจว่าทุกข์และสุขที่เกิดขึ้นเป็นผลของผัสสะจะทำให้เรารู้เท่าทันและหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นไปตามอารมณ์
พัฒนาความเมตตาต่อผู้อื่น: ด้วยความเข้าใจว่าสุขและทุกข์ล้วนมาจากการกระทบต่อผัสสะ จึงควรมีเมตตาและการยอมรับในความต่างของแต่ละคน
ชื่อเพลง: “ทุกข์ สุข สัมผัส”
เนื้อเพลงตัวอย่าง
*ทุกข์และสุขนั้นเกิดจากใจ
ผ่านสัมผัสจากกาย วาจา ใจ
คำที่เราได้ฟัง ผ่านความรู้สึกที่เจอ
เป็นดั่งกองไฟที่ลุกขึ้นเมื่อใด
สุขเกิดจากสัมผัส ทุกข์อยู่ไม่ไกล
เกิดจากการปะทะที่ไม่มีวันพ้น
สัมผัสทำให้เกิดภายในใจเรา
จะทุกข์หรือสุขก็เพียงรู้ทัน*
เมื่อใจรู้เท่าทัน ก็พ้นทุกข์ไป
สัมผัสเพียงผัสสะ ไม่ต้องยึดมั่น
อารมณ์เพียงน้ำที่ผ่านไปไม่เหลือ
ปล่อยให้ใจสงบ ไม่ผูกพัน
เอกสารอ้างอิง
พระไตรปิฎกเล่มที่ 16 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 8 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=16&A=931
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น