วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

วิเคราะห์การสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรและงานวิจัยทางการท่องเที่ยวไทย-จีน จากผล "สอวช. - บพข." ร่วมหารือสถาบันการท่องเที่ยวจีน



การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและจีน โดยทั้งสองประเทศต่างมุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งรายได้หลัก ด้วยการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-จีน จะสามารถพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยวและสนับสนุนการวิจัยด้านนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมได้มากยิ่งขึ้น

นโยบายและแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวจีน

จากการเยือนประเทศไทยของ Prof. Dr. Dai Bin คณบดีสถาบันการท่องเที่ยวจีน ได้เน้นย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก โดยการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงข้อมูลและการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวจีน

บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาและองค์กรวิจัยไทย

ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวถึงการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านทางสถาบันอุดมศึกษาและการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนงานวิจัย เช่น การพัฒนาบริการการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานสากลควบคู่ไปกับเอกลักษณ์แบบไทย ทั้งนี้ ยังรวมถึงการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและนวัตกรรม



ในการหารือระหว่างไทยและจีน การวิจัยด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนานวัตกรรมถูกยกเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องการการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่าย การร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Commercial and Innovation Platform (ECIP) เป็นโครงการที่นำเสนอโดย สอวช. ซึ่งจะช่วยสร้างนวัตกรรมการท่องเที่ยวที่สามารถพัฒนาบริการและมาตรฐานการท่องเที่ยวให้เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในสถาบันการศึกษา

ควรมีการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทางด้านการท่องเที่ยวโดยเน้นทักษะทางด้านดิจิทัลและภาษาจีน รวมถึงสนับสนุนการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม

ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการวิจัยและนวัตกรรม

ควรจัดตั้งกลุ่มวิจัยร่วมระหว่างไทยและจีน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการท่องเที่ยว และการพัฒนาระบบข้อมูลที่สามารถติดตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว

สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและลดคาร์บอน

รัฐบาลควรสร้างนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดคาร์บอน เช่น การใช้พลังงานทดแทนในสถานที่ท่องเที่ยวและการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการท่องเที่ยว

ควรพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-จีนให้มีประสิทธิภาพ โดยรวมถึงการจองโรงแรม แพ็กเกจท่องเที่ยว และการบริการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยว

สรุป

ความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรและงานวิจัยทางการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนเป็นโอกาสที่สำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และศักยภาพของทั้งสองประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการวางนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรม และสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์

  วิเคราะห์ปัญจาลวรรคในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23: พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พระไตรปิฎกเล...