วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - ทุพภิยสูตร : สันติวิธีของท้าวสักกะ

  ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  

 คลิกฟังเพลงที่นี่

 เพลง: ทางแห่งสันติของท้าวสักกะ

(Verse 1)

แม้ศัตรูอยู่ตรงหน้า

ใจยังก้มละเว้นทำร้าย

ถือธรรมะประดุจธงชัย

สู่ความสงบในใจตน

(Chorus)

ท้าวสักกะกล่าวไว้ด้วยเมตตา

ต่อเวปจิตติผู้มีศัตรู

เราจะไม่ประทุษร้ายซึ่งกัน

แค่ขอให้อยู่อย่างสันติสุข

(Verse 2)

ในโลกที่เต็มไปด้วยความล้ำ

เทคโนโลยีแผ่ขยายไป

เราควรอยู่ด้วยใจที่ไม่ร้อน

เคารพสิทธิผู้อื่นเป็นสำคัญ

(Chorus)

ท้าวสักกะกล่าวไว้ด้วยเมตตา

ต่อเวปจิตติผู้มีศัตรู

เราจะไม่ประทุษร้ายซึ่งกัน

แค่ขอให้อยู่อย่างสันติสุข

(Outro)

แม้ในยามสงครามจะมาเยือน

ใจเรายังไม่แผ่วแห่งสันติ

สู่สังคมที่สงบและมีรัก

เดินทางด้วยธรรมะในใจ


บทความ: การไม่ประทุษร้ายเป็นแนวทางแห่งสันติ: บทเรียนจากนทุพภิยสูตรในยุคปัญญาประดิษฐ์


บทคัดย่อ

บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสรุปสาระสำคัญของ "นทุพภิยสูตร" ในพระไตรปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่มที่ 15 โดยเนื้อหากล่าวถึงการตัดสินใจของท้าวสักกะ จอมเทวดา ที่เลือกไม่ใช้ความรุนแรงหรือการประทุษร้ายแม้กับผู้ที่เป็นศัตรูอย่างท้าวเวปจิตติ จอมอสูร ท้าวสักกะเลือกที่จะรักษาความเมตตาและกรุณา แม้ว่าต้องเผชิญกับความขัดแย้ง สาระสำคัญนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของการไม่ประทุษร้ายที่สามารถนำไปใช้ได้ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทในชีวิตประจำวัน การยึดมั่นในหลักธรรมนี้เป็นรากฐานในการสร้างความสงบสุขและลดการเบียดเบียนซึ่งกันและกันในสังคม


สาระสำคัญของนทุพภิยสูตร

ในนทุพภิยสูตร ท้าวสักกะ จอมเทวดา ซึ่งมีศัตรูคือท้าวเวปจิตติ จอมอสูร ได้เกิดความคิดว่าแม้ต่อศัตรูก็ไม่ควรประทุษร้าย โดยเมื่อท้าวเวปจิตติเข้ามาหา ท้าวสักกะได้กล่าวว่าเขาจะไม่ประทุษร้ายต่อผู้ที่ไม่แสดงความประทุษร้ายก่อน ท้าวเวปจิตติจึงกล่าวคำสาบานโดยเปรียบเทียบบาปต่างๆ ที่จะเกิดกับผู้ที่เลือกใช้การประทุษร้าย คำสอนจากสูตรนี้สะท้อนถึงคุณค่าของการละเว้นจากการเบียดเบียนและมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง แม้ในสถานการณ์ของความขัดแย้ง


ข้อเสนอเชิงนโยบายในการประยุกต์ใช้หลักธรรมจากนทุพภิยสูตรในยุคปัญญาประดิษฐ์

การพัฒนา AI ที่เคารพสิทธิและความเป็นส่วนตัวของบุคคล: ควรมีนโยบายที่ควบคุมการใช้งาน AI ให้สอดคล้องกับจริยธรรม โดยเฉพาะในเรื่องของการไม่ใช้ AI เพื่อการโจมตีหรือแทรกแซงข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น การใช้เทคโนโลยีควรยึดมั่นในหลักการไม่ประทุษร้าย ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นโดยไม่จำเป็น


การใช้ AI เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในสังคม: การพัฒนา AI ควรมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหาและลดความขัดแย้ง เช่น การนำ AI มาใช้ในระบบการวิเคราะห์และเฝ้าระวังปัญหาสังคม เพื่อประเมินความต้องการของประชาชน และสร้างสังคมที่เคารพต่อกันมากยิ่งขึ้น โดยยึดหลักการไม่ประทุษร้ายตามที่ท้าวสักกะได้ปฏิบัติ


ส่งเสริมการศึกษาและปลูกฝังจริยธรรมในการใช้ AI: ควรมีการจัดหลักสูตรเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมในสถาบันการศึกษา เพื่อให้ผู้พัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ตระหนักถึงหลักการสำคัญของการไม่ประทุษร้าย และการเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคม


นโยบายป้องกันการใช้ AI ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย: ภาครัฐควรกำหนดนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในทางที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อประชาชน เช่น การใช้ AI ในการผลิตข่าวลวงหรือเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ควรมีมาตรการป้องกันและตรวจสอบอย่างเข้มงวด


บทสรุป

นทุพภิยสูตรแสดงถึงคุณค่าของการละเว้นจากการประทุษร้ายและการเคารพต่อความสงบสุข หลักธรรมนี้ยังคงมีความสำคัญในยุคสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้า โดยการส่งเสริมความเมตตาและไม่เบียดเบียนผู้อื่น สามารถเป็นแนวทางในการสร้างสังคมที่สงบสุขและมีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

พระไตรปิฎกเล่มที่ 15 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 7 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค  https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=7263


 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ

  วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแ...