"อนุทิน"โพสต์แจ้ง! กก.วัตถุอันตรายยกเลิกการแบนสารไกลโฟเซต อีก 2 ชนิดเลื่อนแบน 6 เดือน
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 14.40น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า
""ด่วน!!!
กรรมการวัตถุอันตราย
ยกเลิกการแบน
สารไกลโฟเซต"
ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุตสาหกรรม เป็นฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชน คือ มติแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้มีผลวันที่ 1 ธันวาคม 2562 หลังจากมติคณะกรรมการอันตรายออกไป ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งเกษตรกร ผู้นำเข้าอาหารสัตว์ต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหว ต้องการให้เลื่อนการแบน 3 สารเคมีออกไปก่อน
ทั้งนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้พิจารณาข้อเสนอของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว จึงมีมติดังนี้
1. ให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตราย พาราควอต และคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 สำหรับวัตถุอันตรายไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561
2. มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการจัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมสำหรับวัตถุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส รวมถึงมาตรการในการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และให้นำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาภายในระยะเวลา 4 เดือน
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊กกระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่การปราศรัยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับการพัฒนามาต่อเนื่องตลอด 77 ปี จนปัจจุบันนี้ การบริการด้านสุขภาพของไทย อยู่ในอันดับ 6 ของโลก และเป็นที่ 1 ของอาเซียน ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง อาทิ การขยับสู่การเป็นโลกดิติตัล สังคมผู้สูงอายุ เรื่องการค้าการลงทุน ความเป็นสังคมเมือง การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศที่กระทบต่อสุขภาพ
จากนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะพัฒนาการดำเนินการ บนหลักการ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง และเศรษฐกิจไทยแข็งแรง" ด้วยโนยาย 5 ด้าน คือ
1.การพัฒนางานด้านสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริ 2.ให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ 3.ให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ และมีความมั่นคงทางสุขภาพ 4.ผลักดันเทคโนโลยีทางการแพทย์ และการสาธารณสุข 5.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
มีนโยบายเร่งด่วนคือ การสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาและสมุนไพรทางการแพทย์อย่างปลอดภัย จัดการภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ยกระดับ อสม. ให้เป็นหมอประจำบ้าน ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และ
“สนับสนุนให้ยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายต่อสุขภาพประชาชน”
ทั้งนี้ ความสำเร็จที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น