วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

"หญิงหน่อย"แนะแนว! "การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง"



 "หญิงหน่อย"เข้าวัดบรรยายนิสิตป.เอก "มจร" แนะแนว"การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง" ขอทุกพรรคการเมืองจริงใจ ทำกติกาให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ หวังเห็นการแก้ รธน.เป็นวาระแห่งชาติ ส่วนประธาน กมธ.ควรแสดงวิสัยทัศน์ ให้สัญญาประชาคม จะแก้รธน.โดยไม่มีวาระแอบแฝง 

วันที่ 9 พ.ย.2562  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายแก่นิสิตดุษฎีบัณฑิต คณะบัญฑิตวิทยาลัย สาขาพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)  ในหัวข้อ "การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง" 

ทั้งนี้ดร.คุณหญิงสุดารัตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพระพุทธศาสนา มจร ด้วยดุษฎีนิพนธ์ภายใต้หัวข้อ "พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน" 

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กในเวลาต่อมาที่เกี่ยวกับดุษฎีนิพนธ์โดยเชื่อมั่นว่าหากพรรคการเมืองต่างๆ นำไปประยุกต์ปรับใช้กับการบริหารจัดความความขัดแย้งทางการเมือง ก็จะสามารถสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมืองได้  ตนได้ถือโอกาสนำหลักพุทธธรรมที่เคยเขียนในดุษฎีนิพนธ์กลับมาขบคิด ทบทวน ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า เป้าหมายใหญ่ ต้องเป็นไปเพื่อเขียน "รัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ"  ให้เกิดขึ้นจริง
"ช่วงท้ายของการบรรยาย หน่อยได้ย้ำกับน้องๆ นิสิต ป.เอกด้วยว่า การสร้างประชาธิปไตยแบบธรรมาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหมายถึงการสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและประชาธิปไตยที่มีคุณธรรมให้เกิดขึ้นจริงในสังคม ซึ่งทั้งสองเงื่อนไขนี้ เป็นทั้งเรื่องยาก เรื่องท้าทาย และเป็นเรื่องที่หากจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยการสร้างจุดหมายร่วม ที่เป็นหลักการใหญ่ๆ ซึ่งจะประสานงาน ประสานประโยชน์คนไทยทุกฝ่ายเข้าด้วยกันได้


และก็ด้วยการสร้าง การมีส่วนร่วมทางการเมือง  ที่หนักแน่น เพราะหากรัฐธรรมนูญไม่ยึดโยงกับประชาชน ก็จะขาดพลังในการโน้มน้าวให้ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข หนักไปกว่านั้นคือเอาแต่เอื้อประโยชน์ คสช. และทุนผูกขาด นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งรังแต่จะขยายรอยร้าวในสังคมให้เพิ่มมากขึ้น"  คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ

หลังการบรรยาย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่ สังคมให้ความสนใจในเวลานี้ว่าบุคคลใด จะมาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยระบุไว้รวม 6 ประเด็น

1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง แม้แต่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้สั่งให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา  เพื่อสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของตนเองได้ และนับแต่เป็นรัฐบาลคสช.ต้องออก ม.44 ยกเว้นการใช้บังคับรัฐธรรมนูญหลายครั้ง จนถึงเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ก็ยังทำตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้

2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำโดยวิธีง่ายๆ คือการแก้ ม.256 เพียงมาตราเดียว เพื่อปลดล็อกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้  โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ที่มาจากสาขาอาชีพ จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของประชาชน ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้

3. ถ้าทุกพรรคการเมืองจริงใจ  ต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ  ตั้งใจทำกฎกติกาของประเทศ ให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ  เพื่อประชาชนส่วนใหญ่  มิใช่ทำเพื่อคนบางกลุ่มอย่างในปัจจุบัน  ก็สามารถใช้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น "วาระแห่งชาติ" ที่ทุกคน ทุกพรรค รวมทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน คณาจารย์ผู้รอบรู้ทั้งหลาย มาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศ  สร้างความสมานฉันท์  ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้ "รัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ" สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาประเทศที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศให้ทันโลกได้

4.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้คนไทย กระจายโอกาสกระจายรายได้ ให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ลดการใช้อำนาจและทุนผูกขาดประเทศ จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่สูงมากอย่างในปัจจุบัน

5. สำหรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการ  ทุกคนมีสิทธิ์เสนอตัวมามาทำหน้าที่ แต่ผู้เสนอตัวมาทำหน้าที่ประธาน ควรแสดงวิสัยทัศน์ และให้ "สัญญาประชาคม" กับประชาชน  ว่าจะมาทำหน้าที่ แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง  จริงใจ ด้วยวิธีการและขั้นตอนอย่างไร ให้ได้มาซึ่งการแก้ มาตรา 256 จนถึงการจัดเลือกตั้งสสร. จากประชาชนได้

6. การทำหน้าที่ประธาน จะต้องไม่มีวาระแอบแฝง ไม่เป็นประธานเพื่อมาป่วนและขัดขวางการแก้ไข "รัฐธรรมนูญ เพื่อ ความก้าวหน้าของประเทศ" ในครั้งนี้  

คุณหญิงสุดารัตน์  กล่าวด้วยว่า ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของแต่ละพรรคการเมือง  ในการตั้งกรรมาธิการฯเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดี
เพื่อส่งเสียงเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้สำเร็จ 

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำถึง ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการแก้ไข โดยมีเจตนารมณ์ ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ในสองเรื่องใหญ่  ประกอบด้วยปัญหาความไม่ปรองดอง จากโครงสร้างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่ไปยึดโยงกับกลุ่มอำนาจ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นไปเพื่อให้คนกลุ่มเล็ก สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศกับไม่มีสิทธิ์มีเสียง  ซึ่งนำไปสู่ปัญหา เศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีการผูกขาดอำนาจ นโยบายต่างๆจึงเอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่ สิทธิของประชาชน คนตัวเล็ก ที่จะเกิดโอกาสในการทำมาหากิน จึงถูกปิดกั้น การกระจายอำนาจลดน้อยลง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจในลักษณะเช่นนี้เป็นเสมือนการรวมศูนย์ทุน จึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" ร่วมกมธ.ศาสนาสภาฯลงพื้นที่เพชรบุรี ติดตามและช่วยวัดที่มีปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่วัดเขาย้อย ฉลุยทุกวัดที่ยื่นและรอ

เมื่อวันที่  16 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่วัดเขาย้อยอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี คณะกรรมาธิการศาสนานำโดยนายวีระพล  จิตสัมฤทธิ์ สสศรีสะเกษ...