วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564

รฟม.ยอมถอยไม่ทุบวัดเอี่ยมวรนุชแล้ว หลังเข้าแจงอนุกมธ.พุทธสภาฯ


เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564ที่ผ่านมา ที่รัฐสภาเกียกกาย คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาฯ ได้พิจารณาศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเวนคืนที่ดินวัดเอี่ยมวรนุช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จากการดำเนินโครงการก่อสร้างรถฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โดยได้เชิญนิมนต์/เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย 1) วัดเอี่ยมวรนุช 2) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 3) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 4) กรุงเทพมหานคร 5) ผู้เสนอเรื่องโดยประธานชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา (ศาสตราจารย์ ดุษฎีวัฒน์ แก้วอินทร์) นายบดินทร์ วัชโรบล และประธานชมรมรักษ์ศิลป์พระนคร 

นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ชี้แจงว่า หลังจากที่เป็นข่าวแพร่ไปในสังคมโซเชียลทางส่วนของ รฟม. โดยเฉพาะผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นทางรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้ว่า รฟม. ทุกท่านต่างไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งนี้ได้หารือในกระบวนการหลายวิธีที่จะทำให้ไม่กระทบต่อ วัดเอี่ยมวรนุช ด้วยเพราะจุดทางขึ้นลงจะอยู่บริเวณวัดเอี่ยมวรนุชพอดี โดยมีอยู่หลายวิธีที่แก้ปัญหาทางขึ้นลงนี้คือ 1) เปลี่ยนเป็นจุดอื่นด้านข้าง จะต้องทำ EIA ใหม่ 2) วิธีรอนสิทธิ์ คือคืนสิทธิ์บนผิวดินให้วัดหลังสร้างเสร็จ 3) ใช้เขตนอกกำแพงวัด แต่จะใช้เพียงตึกแถวที่เช่ากับวัด ซึ่งวิธีที่ 3 จะดีที่สุดโดย รฟม. จะปรับภูมิทัศน์ให้สัมพันธ์กับวัดให้เหมาะสมและสวยงามอันจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายต่อไป

ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล เลขาฯ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ เผยว่า กรณีวัดเอี่ยมวรนุช ถือเป็นวัดที่เก่าแก่โบราณ สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2327 กว่า 250 ปีมาแล้ว ด้วยกระบวนการเวนคืนมีกฎหมายที่เป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งประชาชนในพื้นที่ไม่สบายใจที่วัดจะถูกเวนคืนที่ดิน อีกทั้งศิลปะที่เห็นในวัดสามารถปรากฎเป็นหลักฐานจะนำไปสู่การให้ความรู้จากบรรพบุรุษของไทยสู่ชนรุ่นหลังผ่าน ศิลปะที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่วัด จึงได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ประชุมตัวแทน รฟม. ได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาโดย “จะไม่กระทบกับพื้นที่ที่จะใช้เข้าไปในรั้ววัด” ทางตัวแทนวัดเอี่ยมวรนุช ตัวแทนชุมชน และผู้ร้องต่างเห็นด้วย จึงได้สรุปในที่ประชุม ให้ รฟม. ออกหนังสือให้ชัดเจนแถลงต่อ กมธ. และสื่อมวลชน ต่อไป

พระมหาสร้อย สิทธิเมธี เลขานุการฯ วัดเอี่ยมวรนุช กล่าวว่าอาตมาขออนุโมทนากับ รฟม. และคณะอนุกรรมาธิการฯ พุทธศาสนาฯ ชาวพุทธผู้ที่ร้องกับกรรมาธิการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่หาทางออกให้กับวัดเอี่ยมวรนุช ที่เป็นวัดเล็กๆ ทั้งนี้พระก็ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย รวมถึงการเข้าถึงผู้มีอำนาจที่จะตัดสินใจก็ไม่มี เมื่อมาที่กรรมาธิการฯ ได้มีทางออกได้เป็นอย่างดี โดย รฟม. จะไม่เวนคืนพื้นที่ในเขตหลังจากกำแพงวัดหรือเรียกง่ายๆ ว่าในเขตวัด ก็ถือเป็นอนุรักษ์และรักษาพระพุทธศาสนาที่บรรพบุรษของไทยได้ฝากฝังไว้ให้กับชาวพุทธรุ่นหลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ธรรมะกับประชาธิปไตยไยห่วงใยสถาบันศาสนา

การวิเคราะห์ประชาธิปไตยในปริบทพุทธสันติวิธีชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในระบอบประชาธิปไตย เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างควา...