วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - พรหมเทวสูตร : พรหมหรือจะสู้พรหมจรรย์แห่งความสงบ

  ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  

 คลิกฟังเพลงที่นี่

(Verse 1)

เมื่อใจเราไร้ทุกข์ ปล่อยวางทุกกิเลส

ในความสงบเย็นนี้ ไร้เงามืดและความหวัง

เหมือนท่านพระพรหมเทวะ ผู้พ้นจากพันธะกังวล

เราเดินตามทางนี้ ด้วยใจที่มั่นคง

(Chorus)

โอ้… พรหมจรรย์แห่งความสงบ

ปล่อยวางทุกสิ่ง ทำใจให้บริสุทธิ์

เมื่อเราไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า

แสงแห่งธรรมจะนำทางเราไป

(Verse 2)

เมื่อมีสติตั้งมั่น ในทุกสิ่งที่เราเป็น

เส้นทางแห่งธรรมะ นำความสุขใจ

ไม่ยึดติดกับโลก ปล่อยวางไปทีละน้อย

จะเจอแสงใหม่ ที่สว่างในใจเรา

(Bridge)

แม้หนทางจะยากเย็น จิตเราต้องแข็งแรง

ข้ามผ่านทุกคลื่นคลอน ด้วยธรรมที่บริสุทธิ์

เหมือนดังพระพรหมเทวะ ที่เยือกเย็นจากทุกข์ภัย

พลังแห่งธรรมะจะพาเราไป

(Chorus)

โอ้… พรหมจรรย์แห่งความสงบ

ปล่อยวางทุกสิ่ง ทำใจให้บริสุทธิ์

เมื่อเราไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า

แสงแห่งธรรมจะนำทางเราไป

(Outro)

ในทุกย่างก้าว จงทำใจให้บริสุทธิ์

พบกับความสงบ ในหัวใจที่เราตามหา

 

บทความ: พรหมเทวสูตร – ความหมายและการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

บทนำ

พรหมเทวสูตร หนึ่งในพระสูตรสำคัญที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 15 (พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 7 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค) เป็นพระธรรมคำสอนที่แสดงถึงการบรรลุพระอรหันต์โดยท่านพระพรหมเทวะ บุตรของนางพราหมณี ซึ่งจากการตั้งใจปฏิบัติธรรม ได้พ้นจากกิเลสและบรรลุผลทางจิตใจอันสมบูรณ์ โดยสาระสำคัญในพรหมเทวสูตรนี้ยังมีคำแนะนำเชิงปรัชญาและธรรมะซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม

เนื้อหาสำคัญของพรหมเทวสูตร


พระสูตรนี้เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงท่านพระพรหมเทวะ ผู้ซึ่งออกบวชในพระพุทธศาสนา โดยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท มีความเพียร และมุ่งหมายการหลุดพ้น จนในที่สุดก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้ ท่านพระพรหมเทวะเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งที่พ้นจากกิเลสทั้งปวง เป็น “อติเทพ” ผู้เยือกเย็นไร้ทุกข์และความหวังในอนาคตหรือตัวตนที่ล่วงเลย

เรื่องราวนี้สะท้อนการแสดงตนของท้าวสหัมบดีพรหมต่อมารดาของท่านพระพรหมเทวะ ที่ยังยึดติดกับการบูชาในรูปแบบเก่า ท้าวสหัมบดีพรหมจึงแนะนำให้มารดานับถือพระพรหมเทวะที่บรรลุธรรมแล้ว เพราะท่านได้ข้ามพ้นความทุกข์และสันติภาพภายใน พร้อมทั้งปล่อยวางอัตตาและไม่มีพันธนาการแห่งกิเลส

การประยุกต์ใช้หลักธรรมในพรหมเทวสูตรในชีวิตประจำวัน

การไม่ประมาทและการทำจิตให้สงบ

พระพรหมเทวะได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีสติและการไม่ประมาท ซึ่งสอดคล้องกับการทำงานและการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน เมื่อเราระมัดระวังในสิ่งที่ทำ เราจะสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดและพัฒนาตนเองได้อย่างมั่นคง

การปล่อยวางจากอัตตาและกิเลส

ท่านพระพรหมเทวะเป็นผู้ปล่อยวางจากความปรารถนาและกิเลส สิ่งนี้เป็นคำแนะนำให้เราลดความยึดติดกับความรู้สึกภายใน ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความโลภ หรือความไม่พอใจ การฝึกฝนเช่นนี้จะช่วยให้เรามีจิตใจสงบ และสร้างสันติภายในตัวเองและกับผู้อื่น

การปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายในชีวิต

ความเพียรพยายามและความมุ่งมั่นของท่านพระพรหมเทวะในการฝึกตนเองเพื่อบรรลุธรรม แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการตั้งเป้าหมายอย่างมั่นคง การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและการอดทนต่ออุปสรรค เพื่อให้ได้มาซึ่งผลสำเร็จที่ยั่งยืน

การเคารพและให้ความสำคัญต่อผู้ที่มีคุณธรรม

ท้าวสหัมบดีพรหมแนะนำให้มารดาของท่านพระพรหมเทวะบูชาและให้ความเคารพต่อผู้ที่บรรลุธรรม แทนที่จะยึดติดกับความเชื่อหรือธรรมเนียมเก่า การนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเคารพคุณธรรมของผู้อื่นและการใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย: การส่งเสริมธรรมะในชีวิตประจำวัน

การสร้างสื่อธรรมะเพื่อการพัฒนาใจในชุมชนและสังคม: ควรมีสื่อและกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจหลักธรรมพื้นฐาน เช่น พรหมเทวสูตร เพื่อให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการพัฒนาจิตใจให้ปล่อยวางจากกิเลส และใช้ชีวิตอย่างมีสติ

การให้ความสำคัญกับการฝึกฝนสติและสมาธิในสถานศึกษาและที่ทำงาน: การจัดโปรแกรมฝึกสมาธิและสติตั้งแต่ในสถานศึกษาและองค์กรทำงาน จะช่วยให้บุคคลในสังคมสามารถลดความเครียดและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้

การสร้างชุมชนที่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาธรรมะ: ควรมีศูนย์กลางการศึกษาและปฏิบัติธรรม ที่เน้นการเรียนรู้ในบรรยากาศสงบสุข มีพระสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรมเป็นผู้ให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมการฝึกฝนตนเองอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

พระไตรปิฎกเล่มที่ 15 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 7 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค  https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=4535


 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพลง: ค่าไม้เก่าแห่งชีวิต

                      ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌ ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno    คลิกฟังเพลงที่นี่ (Verse 1)  ไม้เก่าทำเสาเรือนก็คงหัก พอลมพัดที่พักก็ไ...