ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีผลกระทบทั้งในระดับปัจเจกและสังคมโดยรวม ซึ่งรัฐบาลไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ในหลายรูปแบบ ล่าสุดการปรับใช้ "ร้อยเอ็ดโมเดล" เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ด้วยการนำพุทธธรรมเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมให้ผู้ติดยาเสพติดสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีในสังคมได้อย่างยั่งยืน
การดำเนินงานภายใต้ร้อยเอ็ดโมเดล
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นายกรัฐมนตรีไทยได้เป็นประธานการประชุม ณ วัดบ้านเขวาทุ่ง จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเปิดตัว "ร้อยเอ็ดโมเดล" ในฐานะโครงการนำร่องใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ แนวทางนี้เน้นการค้นหาผู้เสพและผู้ค้าในชุมชนเพื่อบำบัดฟื้นฟูและดำเนินคดีอย่างบูรณาการ ระดมหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังใช้วิธีการตรวจคัดกรองในชุมชนผ่านชุดปฏิบัติการประจำตำบล โดยได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะและบำบัดฟื้นฟูตามระบบ Community-Based Treatment (CBTx) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อย่างเหมาะสม
การบูรณาการพุทธธรรมในกระบวนการฟื้นฟู
หนึ่งในกลไกสำคัญของ "ร้อยเอ็ดโมเดล" คือการนำพุทธธรรมมาช่วยในการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ช่วยให้พ้นจากการใช้ยาเสพติดอย่างยั่งยืน หลักธรรมที่มีบทบาทสำคัญ เช่น
หลักอริยสัจ 4: ช่วยให้ผู้ติดยาเสพติดเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงและค้นหาวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง ตั้งแต่การเข้าใจถึง "ทุกข์" จากการเสพยาไปจนถึง "มรรค" ที่นำไปสู่การฟื้นฟู
การเจริญสติ (สติปัฏฐาน): สอนให้ผู้ติดยาเสพติดมีสติรู้เท่าทันอารมณ์และแรงกระตุ้นของตัวเอง สามารถควบคุมตัวเองและอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข
เมตตาและกรุณาธรรม: ส่งเสริมให้ชุมชนและสังคมรอบข้างมีความเข้าใจและสนับสนุนผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติด ให้มีกำลังใจในการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน
ผลลัพธ์และความสำเร็จของร้อยเอ็ดโมเดล
จากรายงานเบื้องต้น พบว่าการดำเนินงานตามร้อยเอ็ดโมเดลสามารถลดจำนวนผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ผู้ผ่านการบำบัดสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ และได้รับกำลังใจจากครอบครัวและชุมชน ส่งผลให้มีทัศนคติเชิงบวกต่อตนเองและสังคม นอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลกลาง ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นปัจจุบันในการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นพื้นฐานในการวางแผนการทำงานในระยะยาว
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
สนับสนุนการบำบัดและฟื้นฟูโดยใช้หลักพุทธธรรม: รัฐควรสนับสนุนให้มีการบูรณาการหลักพุทธธรรมในกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับวัดและสำนักปฏิบัติธรรมที่มีบทบาทในชุมชน
พัฒนาศูนย์บำบัดและฝึกอาชีพในพื้นที่: ควรเพิ่มศูนย์บำบัดและฝึกอาชีพสำหรับผู้ที่ผ่านการฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ที่เลิกยาเสพติดแล้วมีทักษะในการดำเนินชีวิตและสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน
เพิ่มการเชื่อมต่อและการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: การสร้างฐานข้อมูลกลางที่อัปเดตอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างความตระหนักรู้ในชุมชนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน: การรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ตั้งแต่ระดับต้น
ขยายผลสู่จังหวัดนำร่องอื่น ๆ: ควรนำร้อยเอ็ดโมเดลไปประยุกต์ใช้กับจังหวัดนำร่องอื่น ๆ โดยเน้นการบูรณาการพุทธธรรมและการมีส่วนร่วมของชุมชนในลักษณะเดียวกัน
สรุป
ร้อยเอ็ดโมเดลเป็นตัวอย่างสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่บูรณาการพุทธธรรมเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ทั้งนี้ความสำเร็จของร้อยเอ็ดโมเดลอยู่ที่การประสานงานของทุกภาคส่วนและการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างเต็มที่ การขยายผลโมเดลนี้สู่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมที่ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น