วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"บึงกาฬ" จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนเเรงในครอบครัว



เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ณ บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง และหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ (หลังใหม่) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงในสังคม ทั้งในกลุ่มเด็กและสตรี รวมถึงความรุนแรงภายในครอบครัว

กิจกรรมนี้ยังมุ่งสร้างความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการดำเนินงานเพื่อป้องกันและยุติการกระทำความรุนแรงในทุกระดับ โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน สตรี และประชาชนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 300 คน

โดยในงานนี้ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรมและปล่อยขบวนรณรงค์ พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนให้ทุกคนร่วมมือกันในการขจัดปัญหาความรุนแรงในทุกรูปแบบในสังคม พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้การศึกษาและการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของความรุนแรงในครอบครัวและต่อสังคมในวงกว้า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความปลอดภัยและความมั่นคงทางสังคม โดยหวังว่าจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและปลอดภัย 

ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนเเรงในครอบครัวตามแนวทางในพระไตรปิฎก 

อย่างไรก็ตามในพระไตรปิฎกซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญของพระพุทธศาสนาไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องของการปฏิบัติธรรมในบริบทส่วนตัวหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสงบสุขในครอบครัวอีกด้วย โดยมีคำสอนที่เน้นการปฏิบัติตนเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี และความเคารพซึ่งกันและกันในครอบครัว การมีสันติสุขในครอบครัวจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างสันติภาพในสังคมวงกว้าง เนื้อหานี้จะกล่าวถึงหลักการและตัวอย่างการสร้างสันติภาพในครอบครัวจากพระไตรปิฎก พร้อมวิธีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน

1. หลักธรรมในการสร้างสันติภาพในครอบครัวในพระไตรปิฎก

1.1 กรณีของหิริโอตตัปปะ (ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป)

ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปเป็นหลักธรรมที่ช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีในครอบครัว หากสมาชิกในครอบครัวทุกคนมีหิริโอตตัปปะ จะช่วยลดการทะเลาะเบาะแว้งและการกระทำที่เป็นปัญหา เช่น การใช้ความรุนแรงและการพูดจาไม่ดีต่อกัน

1.2 สาราณียธรรม 6 (ธรรมที่ทำให้เกิดความระลึกถึงกันและเกิดความสามัคคี)

สาราณียธรรมเป็นธรรมะที่ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวในครอบครัว ประกอบด้วยการแสดงความเคารพ การแบ่งปันสิ่งของ การพูดจาด้วยความรัก และการช่วยเหลือกันในยามยาก หากสมาชิกในครอบครัวนำหลักสาราณียธรรมมาใช้ จะช่วยสร้างความรักความผูกพัน และความปรองดอง

1.3 สมานัตตตา (ความเสมอภาคและยุติธรรม)

หลักสมานัตตตาเน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้รับความยุติธรรมและเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ลูก หรือคู่สมรส การปฏิบัติอย่างยุติธรรมช่วยลดความขัดแย้ง และทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น

2. ตัวอย่างการสร้างสันติภาพในครอบครัวจากพระไตรปิฎก

2.1 เรื่องของพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายา

พระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายาเป็นแบบอย่างของพ่อแม่ที่ปฏิบัติต่อบุตรด้วยความรักและความเมตตา แม้ในยามที่พระเจ้าสุทโธทนะต้องการให้พระพุทธเจ้ากลับมายังครอบครัว ทรงปฏิบัติด้วยการเชิญพระพุทธเจ้าอย่างเคารพและให้เกียรติ การใช้สันติวิธีและความเมตตาแสดงถึงความเป็นผู้นำครอบครัวที่สร้างความสงบสุขและความเข้าใจในบรรยากาศครอบครัว

2.2 การแนะนำลูกให้มีธรรมะ

พระพุทธเจ้าทรงสอนให้บิดามารดามีหน้าที่แนะนำลูกให้ประพฤติตนในธรรมะและนำธรรมมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ตัวอย่างในคัมภีร์มีการกล่าวถึงความสำคัญของการอบรมสั่งสอนบุตรให้ปฏิบัติธรรม เช่น การสอนให้ประพฤติดีในศีล 5 และดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท

2.3 พระเจ้าอโศกมหาราชและการสร้างสันติสุขในครอบครัว

พระเจ้าอโศกมหาราชหลังจากทรงพบพระพุทธศาสนา ได้ใช้หลักธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินและการปกครองครอบครัว ทรงส่งเสริมสันติภาพด้วยเมตตาธรรมและการปฏิบัติต่อประชาชนเสมือนบุตร การนำความเมตตาและธรรมะไปใช้ในการบริหารจัดการครอบครัวช่วยให้เกิดความปรองดองในครอบครัวที่ขยายไปถึงชุมชนและประเทศชาติ

3. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสร้างสันติภาพในครอบครัว

การสื่อสารด้วยความเคารพและการฟังอย่างเข้าใจ

การสื่อสารที่มีความเคารพ การใช้วาจาที่สุภาพ และการฟังความคิดเห็นของกันและกันช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว

การปฏิบัติธรรมร่วมกันในครอบครัว

การนั่งสมาธิ หรือการฟังธรรมร่วมกันเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสงบในจิตใจสมาชิกครอบครัว ลดความเครียด และเพิ่มความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

การปลูกฝังคุณธรรมให้แก่บุตรหลาน

การอบรมบุตรหลานให้มีศีลธรรมและประพฤติปฏิบัติธรรมตั้งแต่เด็ก ช่วยลดปัญหาการทะเลาะวิวาทในครอบครัว และทำให้สมาชิกทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

การสร้างสันติภาพในครอบครัวในพระไตรปิฎกเน้นการปฏิบัติธรรมและการใช้ความเมตตาธรรมในการดูแลซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ หากสมาชิกทุกคนในครอบครัวมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีความยุติธรรม และประพฤติตามหลักธรรม จะทำให้เกิดสันติสุขในครอบครัวและนำไปสู่สันติภาพในสังคมที่กว้างขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"บึงกาฬ" จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนเเรงในครอบครัว

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมกา...