วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"ชูศักดิ์-นิยม" ประชุมเตรียมพร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วจาากจีนกำหนด 5 โซนนิทรรศการ

เมื่อ เวลา 14.00 น.วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ห้องประชุม 109 ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว มี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร"ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย
 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ได้มีมติเห็นชอบให้รับโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ ในภาพรวม และดำเนินการเตรียมความพร้อมของสถานที่และการบริหารจัดการในภาพรวม ณ ท้องสนามหลวง

 "ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกัน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568

 ในการนี้ การจัดพิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว กำหนดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ประดิษฐานที่มณฑปท้องสนามหลวง ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคมมอบหมาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

 ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว เวลา 17.00 น. รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จำนวน 19 ริ้วขบวน จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังท้องสนามหลวง
 ในส่วนของการจัดงาน ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 "ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน" นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติในการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จปรินิพพาน โดยเน้นในช่วงพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน

 โซนที่ 2 "พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ" นำเสนอเรื่องราวประวัติของพระสรีระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก

 โซนที่ 3 "พระเขี้ยวแก้ว" นำเสนอเรื่องราวประวัติ ความสำคัญ และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว)

 โซนที่ 4 "ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกและมีพระราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา สืบสานราชประเพณีสืบเนื่องมาจนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ

 โซนที่ 5 "ความสัมพันธ์ ไทย-จีน" นำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในด้านต่าง ๆ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ส่งเสริมคำว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน"

ในโอกาสนี้ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568 กำหนดเวลาตั้งแต่ 07.00 - 20.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะสำหรับประชาชน จึงขอเชิญชวนประชาชนกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป

ชื่อเพลง: "แสงแห่งพระบรมธาตุ"

คลิกฟังเพลงที่นี่

เนื้อเพลง:

(ท่อน 1)
กลางใจเมืองไทย ณ สนามหลวง
เปี่ยมด้วยพลังแห่งความศรัทธา
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมา
จากแผ่นดินจีนถึงไทยในร่มเย็น

พระเขี้ยวแก้วส่องทางพระธรรม
ร้อยใจชาวพุทธน้อมนำบูชา
หกสิบพรรษาเฉลิมพระเกียรติองค์ราชา
ใต้พระบารมีร่มเย็นนิรันดร์

(ท่อนสร้อย)
แสงแห่งพระบรมธาตุ สาดส่องใจไทย
รวมจิตศรัทธาให้มั่นในพระธรรม
จีน-ไทย ร้อยสายใยสัมพันธ์
พระราชพิธีมหามงคลแห่งฟ้าไทย

(ท่อน 2)
ริ้วขบวนอัญเชิญยิ่งใหญ่
สิบเก้าขบวนงามล้ำค่าศรีศักดิ์
พระเขี้ยวแก้ว ณ มณฑปเป็นสักขี
ประจักษ์กลางกรุงกราบบูชา

นิทรรศการเล่าถึงทางธรรม
เรื่องราวพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน
พุทธบารมีเปี่ยมรักและเมตตา
ทรงอัครศาสนูปถัมภ์คู่แผ่นดิน

(ท่อนสร้อย)
แสงแห่งพระบรมธาตุ สาดส่องใจไทย
รวมจิตศรัทธาให้มั่นในพระธรรม
จีน-ไทย ร้อยสายใยสัมพันธ์
พระราชพิธีมหามงคลแห่งฟ้าไทย

(ท่อนจบ)
ดอกไม้กราบไหว้เปี่ยมด้วยศรัทธา
เพื่อความสิริมงคลแก่ชีวา
พระเขี้ยวแก้วส่องนำทางปัญญา
ถวายใจบูชาแด่พระศาสนา

เนื้อเพลงนี้สะท้อนถึงความร่วมมือไทย-จีนในโครงการสำคัญ และยกย่องพระราชพิธีมหามงคลที่เชื่อมโยงพุทธศาสนา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และศรัทธาอันลึกซึ้งของประชาชน.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สร้าง Passion ด้วยตัวเอง ปริบทพุทธสันติวิธี

การสร้าง Passion ด้วยตัวเองในปริบทพุทธสันติวิธีเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการสำรวจตัวเอง การตั้งเป้าหมาย และการพัฒนาตนเองอย่างมีสติ การนำหลักธ...