เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ดร.นิยม เวชกามา พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.สกลนคร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รมติ.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) เป็นประธานทอดถวายผ้ากฐินสามัคคีและถวายปัจจัยร่วมทำบุญร่วมกับสายบุญจากหลายพื้นที่พร้อมชาวบ้าน เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบต่อไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวพุทธที่มีมาอย่างยาวนาน ที่วัดสุวรรณธาราราม บ้านโนนน้ำคำ ตำบลแมดนาท่ม อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร โดยมีพระครูสุเขตธรรมสถิต ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลแมดนาท่ม เจ้าอาวาสวัดโคกนาดีเป็นประธานสงฆ์เป็นผู้พิจารณารับมอบกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ทั้งนี้มีผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พุทธศาสนิกชนร่วมแห่องค์พระกฐินสามัคคี พร้อมแสดงการฟ้อนรำของชาวภูไท(ผู้ไทย)ตามวิถีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี โดยได้ยอดเงินรวมกฐินสามัคคีเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ก่อสร้างอาคารวัตถุเพื่อสาธารณะประโยชน์ จำนวนกว่า 100,000 บาท
ทั้งนี้การบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาและการสืบทอดวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชนเป็นภารกิจที่สำคัญในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสืบสานวัฒนธรรมภูไท ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แสดงบทบาทสำคัญในฐานะประธานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดสุวรรณธาราราม บ้านโนนน้ำคำ จังหวัดสกลนคร ซึ่งนอกจากเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสืบสานประเพณีอันทรงคุณค่า
หลักการและอุดมการณ์
การทอดกฐินของ ดร.มหานิยม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยมีหลักการที่เน้นการสนับสนุนศาสนาและการเชื่อมโยงชุมชนผ่านกิจกรรมทางศาสนา อุดมการณ์ที่สำคัญคือการให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน และฟื้นฟูความเชื่อมั่นในศาสนาพุทธของคนรุ่นใหม่
วิธีการและวิสัยทัศน์
ดร.มหานิยมใช้วิธีการที่เน้นการบูรณาการกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของชาวบ้าน กิจกรรมแห่องค์พระกฐินสามัคคีและการฟ้อนรำตามประเพณีภูไท เป็นตัวอย่างของการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในทางวัฒนธรรม ในขณะที่การบริจาคเงินเพื่อทำนุบำรุงวัดและสร้างอาคารสาธารณะประโยชน์แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมความมั่นคงในศาสนาและความเจริญของชุมชนในระยะยาว
แผนงานและโครงการ
แผนงานที่ ดร.มหานิยมดำเนินการคือการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาและการสืบสานวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยการใช้โครงการทอดกฐินเป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคในวัดและชุมชน โครงการนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงการพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้นำท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งในสังคม
อิทธิพลต่อสังคมไทย
บทบาทของ ดร.มหานิยมมีผลกระทบในหลายด้าน ทั้งด้านศาสนา สังคม และวัฒนธรรม โดยการฟื้นฟูวัฒนธรรมภูไทและการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา ช่วยสร้างความสามัคคีและเสริมสร้างอัตลักษณ์ชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำพลังชุมชนมาใช้ในการพัฒนาสังคม และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
สนับสนุนการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น – รัฐควรให้การสนับสนุนงบประมาณและส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยสืบสานวัฒนธรรมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
บูรณาการกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม – ควรมีการเชื่อมโยงกิจกรรมทางศาสนากับการพัฒนาชุมชนเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและความมั่นคงในชุมชน
ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้นำท้องถิ่นและชุมชน – การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้นำท้องถิ่นและชุมชนจะช่วยทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
บทบาทของ ดร.มหานิยมจึงถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้กิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น