วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"กมธ.สว." เสนอจัดตั้งหน่วยต่อต้านดินโคลนถล่มและภัยพิบัติแห่งชาติ



จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มและภัยพิบัติที่ผ่านมา เป็นบทเรียนสำคัญที่ควรนำมาพัฒนานโยบายและระบบการป้องกันภัยพิบัติในประเทศให้มีความเข้มแข็งและพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม

คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ได้ลงพื้นที่ที่บ้านดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เหตุการณ์ดังกล่าวมีความรุนแรงถึงขนาดที่คร่าชีวิตผู้นำชุมชน โดยเหตุการณ์นี้ได้กระตุ้นการพัฒนาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีความยั่งยืนและเข้าถึงประชาชนในทุกระดับ ซึ่งนำไปสู่ข้อเสนอในการจัดตั้งหน่วยต่อต้านดินโคลนถล่มและภัยพิบัติแห่งชาติ

หลักการและอุดมการณ์

การจัดตั้งหน่วยต่อต้านดินโคลนถล่มและภัยพิบัตินั้นมีหลักการสำคัญในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากภัยธรรมชาติ โดยเน้นการเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างรวดเร็ว มีอุดมการณ์ในการทำงานที่มุ่งหวังให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งมีความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยและการเข้าช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



วิธีการ

การจัดตั้งหน่วยงานนี้จะต้องมีการบูรณาการข้อมูลและการทำงานระหว่างหลายภาคส่วน เช่น กรมทรัพยากรธรณี กรมอุตุนิยมวิทยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน โดยเน้นการใช้อุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องมีการฝึกอบรมประชาชนในการเตรียมตัวและปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน

วิสัยทัศน์

วิสัยทัศน์ของหน่วยต่อต้านดินโคลนถล่มและภัยพิบัติคือการสร้างระบบการป้องกันภัยที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการลดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการภัยพิบัติ และการสร้างความตระหนักรู้และเตรียมพร้อมในทุกระดับชุมชน

แผนงานและโครงการ

แผนงานที่เสนอรวมถึงการจัดตั้งระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย การพัฒนาฐานข้อมูลและเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยง การจัดทำแผนการอพยพฉุกเฉินที่เหมาะสมกับพื้นที่เฉพาะ การจัดฝึกอบรมและกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องภัยพิบัติแก่ประชาชน โครงการสำคัญยังรวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดภัยพิบัติและการพัฒนาพื้นที่ชุมชนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

อิทธิพล

การจัดตั้งหน่วยต่อต้านดินโคลนถล่มและภัยพิบัติจะส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ การเตรียมพร้อมและการจัดการปัญหาจะช่วยลดความสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การสร้างความตระหนักรู้ผ่านการลงพื้นที่และการฝึกอบรมจะทำให้ประชาชนมีความเข้าใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ดียิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: ส่งเสริมการประสานงานและการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำในการเตือนภัย

การพัฒนาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ตรวจวัด: ส่งเสริมการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจวัดและประเมินความเสี่ยงของดินโคลนถล่ม

การฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้: จัดการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างต่อเนื่อง

การฟื้นฟูและพัฒนาเชิงพื้นที่: ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนให้ปลอดภัยและมีความยั่งยืนหลังเกิดภัยพิบัติ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" ร่วมพิธีมุทิตาสักการะพระภิกษุสามเณร ผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค

"ดร.มหานิยม"ร่วมพิธีถวายมุทิตาสักการะพระภิกษุสามเณรผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค  วิเคราะห์บทบาทเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยฯกับงาน...