มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ไม่เพียงเป็นสถานที่ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาสให้คนยากจน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมไทย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) เป็นสถาบันการศึกษาที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านประวัติศาสตร์และบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา อันมีส่วนสำคัญต่อการแก้ปัญหาความยากจนในสังคมไทย ด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน มจร ไม่ได้เพียงมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ แต่ยังมุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่กลุ่มคนชายขอบ ผู้ขาดโอกาส และผู้ยากไร้ทั่วประเทศ โดยระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม 2568 มจร จัดพิธีประสาทปริญญาประจำปี 2567 โดยครั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยมีมติอนุมัติให้ปริญญาดุษฎีบัณฑฺิต จำนวน 512 รูป/คน ระดับมหาบัณฑิต 1,025 รูป/คน และระดับบัณฑิตจำนวน 2,912 รูป/คน และอภิธรรมบัณฑิต 144 รูป/คน ร่วมทั้งสิ้น 4,602 รูป/คน นอกจากนี้สภามหาวิทยาลับได้อนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์แลกะเข็มเกียรติคุณแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวน 242 รูป/คน ประกอบด้วยระดับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 90 รูป/คนอาทิหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท (พระราชวัชรธรรมโสภณ) ระดับมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์จำนวน 4 รูป/คน และเข็มเกียรติคุณจำนวน 48 รูป/คน
1. ประวัติศาสตร์และความเป็นมา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2430 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา ปัจจุบัน มจร ได้พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ชั้นนำในระดับนานาชาติ
2. บทบาทในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
มจร มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่กลุ่มคนเปราะบางในหลายด้าน เช่น:
โอกาสทางการศึกษาสำหรับคนยากจน: มจร มีค่าเทอมต่ำและจัดโครงการทุนการศึกษาสำหรับนิสิตที่ขาดแคลน
ขยายฐานการศึกษาในภูมิภาค: ด้วยวิทยาลัยสงฆ์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงในพื้นที่ชายแดนใต้ เช่น วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี
การพัฒนาคุณภาพชีวิต: นิสิตทั้งพระสงฆ์และฆราวาสได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้มีคุณธรรมและความสามารถ ต่อยอดการศึกษากับหลักพุทธธรรม
3. การช่วยแก้ปัญหาความยากจนผ่านการศึกษา
มจร ใช้แนวทาง "ต้นทุนต่ำ คุณธรรมสูง" ในการจัดการศึกษา โดยมุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตที่สามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนาชุมชนและสังคมให้เข้มแข็ง เช่น การสร้างผู้นำชุมชนที่สามารถขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจพอเพียง
4. มจร ในฐานะต้นแบบของการศึกษาเชิงคุณธรรม
นอกจากการเป็นสถาบันการศึกษาแล้ว มจร ยังเป็นต้นแบบของการตั้งโรงทานในกิจกรรมบุญ และสร้างเครือข่ายศรัทธาที่แข็งแกร่งในชุมชน
สมดังเพลง: แสงแห่งมหาจุฬา ดังนี้
ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
(Verse 1)
แสงทองส่องฟ้า มหาจุฬานำทาง
พระธรรมส่องสว่าง ทุกย่างก้าวไป
ต้นทุนต่ำ คุณธรรมสูง
สร้างโอกาสทั่วไทย ให้คนยากไร้เรียนรู้
(Verse 2)
จากชายแดนใต้ สู่ภูมิภาคกว้างไกล
พระนิสิตมากมาย ขจัดความจนหม่นหมอง
ศรัทธาแน่นแฟ้น พระธรรมคู่ปัญญา
พัฒนาเพื่อปวงประชา เป็นที่พึ่งทางใจ
(Verse 3)
หนึ่งในรากฐาน ศรัทธาสร้างสัมพันธ์
โรงทานแบ่งปัน ปัญญาส่องทาง
พระสงฆ์และฆราวาส รวมใจเดินร่วมทาง
เพื่อสร้างสันติในโลกกว้าง ด้วยหลักธรรมคำสอน
(Verse 4)
ร้อยปีที่ยิ่งใหญ่ ยังส่งต่อสายธาร
การศึกษาเพื่อชุมชน เติมเต็มให้ยั่งยืน
จากรุ่นสู่รุ่น ร่วมสร้างความเจริญ
ก้าวเดินไปกับมหาจุฬา เป็นแสงแห่งไทย
(Chorus)
แสงแห่งมหาจุฬา ส่องหล้าแห่งศรัทธา
ลดเหลื่อมล้ำการศึกษา ชูคุณค่าสามัคคี
สร้างบัณฑิตที่ดี มีปัญญาและธรรม
ร่วมสานฝันให้ล้ำ ยกระดับชีวิตสังคม
(Outro)
มหาจุฬา... แสงแห่งศรัทธา
พัฒนาปัญญา... เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในไทย
เป็นที่พึ่งแห่งธรรม แห่งสันติสุขยั่งยืน
นำแสงธรรมให้คืน สู่โลกด้วยใจเมตตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น