วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567

"สมศักดิ์" ชวนประชาชนสักการะพระเขี้ยวแก้ว รณรงค์กินลดคาร์บป้องกันโรค NCDs เดินตามแนวพระพุทธเจ้า



เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567  เวลา 09.00 น.   ที่ท้องสนามหลวง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภริยา ได้เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.-14 ก.พ. 68 เวลา 07.00 น. ถึง 20.00 น.

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้มาสักการะพระเขี้ยวแก้วได้เกิดความสุข การงานต่างๆ ที่ผ่านมาก็สำเร็จลุล่วงเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและพี่น้องประชาชน จึงอยากเชิญชวนมาสักการะพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลกและศาสดาประชาพุทธ ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมากว่า 2,500 ปี ยังไม่มีแพทย์และระบบสาธารณสุขแต่อายุขัยถึง 80 ปี ถึงได้ปรินิพพาน ซึ่งพระจริยวัตรถือเป็นตัวอย่างที่ดี อาทิ การฉันภัตตาหาร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้นำแนวทางของพระพุทธเจ้ามาเป็นแบบอย่าง เพื่อมาสื่อสารกับประชาชนให้ลดบริโภคหวาน มัน เค็ม จึงเป็นที่มาของการนับคาร์บ เราจะให้ความรู้กับประชาชน กินอาหารให้ห่างไกลโรค NCDs หรือ กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งเป็นการเดินตามแนวทางพระพุทธเจ้า

วิเคราะห์การรณรงค์กินลดคาร์บป้องกันโรค NCDs เดินตามแนวพระพุทธเจ้า

 การรณรงค์ลดคาร์บเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายและพอประมาณของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้รับการนำมาเป็นต้นแบบในการสร้างสุขภาวะในยุคปัจจุบัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำแนวคิดนี้มาเชื่อมโยงกับการสักการะพระเขี้ยวแก้วเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจ พร้อมรณรงค์การบริโภคอาหารที่ลดความเสี่ยงต่อโรค NCDs โดยใช้หลักปรัชญาพุทธศาสนาเป็นแนวทาง

วิเคราะห์แนวทางการรณรงค์

1. ความสอดคล้องระหว่างแนวทางพุทธศาสนาและสุขภาพ

พระพุทธเจ้าทรงแสดงตัวอย่างที่ดีในเรื่องการฉันภัตตาหาร เช่น การไม่บริโภคเกินความจำเป็น การเลือกอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพ และการรักษาสมดุลของชีวิต เหล่านี้เป็นแนวทางที่นำไปประยุกต์ใช้กับการรณรงค์กินลดคาร์บ เช่น

การลดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว: ลดอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งขัดขาว ซึ่งเชื่อมโยงกับการลดโอกาสเกิดโรคอ้วนและเบาหวาน

การส่งเสริมการบริโภคอย่างพอประมาณ: สอดคล้องกับหลัก มัชฌิมาปฏิปทา ที่หลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

 2. การลดความเสี่ยงโรค NCDs ผ่านการเปลี่ยนพฤติกรรม

กลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง มีสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม การรณรงค์ลดคาร์บจึงเน้นให้ประชาชนตระหนักถึง

การบริโภคหวาน มัน เค็มในปริมาณที่เหมาะสม

การส่งเสริมอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผักและผลไม้

การให้ความรู้ด้านโภชนาการแบบองค์รวม

3. เชื่อมโยงการสักการะพระเขี้ยวแก้วกับสุขภาวะทางจิตใจ

การสักการะพระบรมสารีริกธาตุ เช่น พระเขี้ยวแก้ว เป็นวิธีสร้างสุขภาวะทางจิตใจ ซึ่งช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และส่งเสริมความสงบในชีวิต การผสมผสานระหว่างสุขภาพกายและใจจึงเป็นจุดแข็งของการรณรงค์นี้

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

สร้างแคมเปญสุขภาพที่บูรณาการหลักพุทธศาสนา ให้ความสำคัญกับการใช้คำสอนทางพุทธศาสนา เช่น อริยมรรคมีองค์ 8 และ ศีล 5 เป็นพื้นฐานในการสร้างแคมเปญสุขภาพ

ส่งเสริมการศึกษาเรื่องโภชนาการในชุมชนและโรงเรียน พัฒนาหลักสูตรที่เน้นการบริโภคอย่างสมดุลโดยลดคาร์บและหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดโรค NCDs

สนับสนุนการเข้าถึงอาหารสุขภาพ ส่งเสริมตลาดอาหารปลอดภัยและสนับสนุนการผลิตอาหารที่ลดปริมาณน้ำตาลและไขมัน

สร้างกิจกรรมชุมชนที่ผสมผสานสุขภาพกายและใจเช่น การจัดกิจกรรมสักการะพระบรมสารีริกธาตุพร้อมกิจกรรมให้ความรู้เรื่องสุขภาพ

พัฒนากลไกติดตามผลด้านสุขภาพจัดตั้งระบบประเมินผลสุขภาพในระดับชุมชนเพื่อวัดผลกระทบของการรณรงค์

ตัวอย่างการนำไปปฏิบัติ

ในระดับบุคคล: ประชาชนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยลดการบริโภคขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำตาลสูง พร้อมเน้นการฝึกจิตผ่านการปฏิบัติสมาธิ

ในระดับชุมชน: จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องสุขภาพ เช่น คลินิกโภชนาการเคลื่อนที่ และเวิร์กช็อปทำอาหารสุขภาพ

ในระดับชาติ: พัฒนาแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลดโรค NCDs ด้วยการปรับปรุงนโยบายด้านอาหาร เช่น การกำหนดเกณฑ์น้ำตาลในผลิตภัณฑ์อาหาร


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ชูศักดิ์" จี้ "พศ." ออกมาตรการและกลไกป้องกันไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา

  เมื่อวันที่  11 ธันวาคม 2567  ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานก...