วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ภาพหลุด"สมศักดิ์"เข้าเรือนจำ คุย"รุ้ง -เพนกวิน -ไมค์ระยอง"



วันที่ 26 ตุลาคม 2563    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางเข้าไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง  เพื่อตรวจสอบการเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ภายหลังที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาปักหลักปราศรัยเมื่อหลายวันก่อน


อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปในครั้งนี้ของ นายสมศักดิ์ ยังได้มีการพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุม อย่าง นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง  แต่การพูดคุยเป็นเรื่องอะไรยังไม่มีการเปิดเผย

คณาจารย์ มธ. เข้าเยี่ยม "เพนกวิน-รุ้ง" ในคุก นำตำราเรียนมาให้ ห่วงเรื่องสุขภาพ

 เวลา 10.00 น. บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ พร้อมด้วย คณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยม "เพนกวิน" นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ "รุ้ง" น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยนำหนังสือและเอกสารประกอบการเรียนเพื่อส่งเข้าเรือนจำให้ทั้ง 2 คน          

นายประจักษ์ ได้อ่านแถลงการณ์ว่า คณาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ได้ติดตามการชุมนุมและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษาและประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "รุ้ง" น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ "เพนกวิ้น" นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ จึงมาเยี่ยมนักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุม ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับนักศึกษา คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง และสังคมดังต่อไปนี้          

1.ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัตินักศึกษาที่อยู่ในเรือนจำอย่างเป็นธรรม และดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษาตามหน้าที่อย่างดี เนื่องจากคณาจารย์มีความห่วงใยต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตในเรือนจำของนักศึกษาที่ถูกจับกุม นักศึกษาเหล่านี้เป็นเพียงผู้ถูกล่าวหา ยังมิได้มีความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด โดยเฉพาะนักศึกษที่ยังมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน ขอให้พวกเขาสามารถเข้าถึงหนังสือ ตำราเรียน และคำบรรยายที่เพื่อนและคณาจารย์ส่งให้ เพื่อที่เขาจะได้ศึกษาเล่าเรียนไปพร้อมกับการทำหน้ที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย          

2.ขอให้ศาลพิจารณาให้นักศึกษาได้รับการประกันตัว เนื่องจากนักศึกษามีภาระต้องเข้าเรียนเสนองาน และสอบให้ครบตามกำหนด หากไม่ได้รับการประกันตัว จะกระทบโดยตรงต่อสถานภาพและอนาคตทางการศึกษาของนักศึกษาอย่งร้ายแรง นอกจากนั้นทั้ง น.ส.ปนัสยา และ นายพริษฐ์ มีโรคประจำตัว หากถูกกักขังไว้ในเรือนจำที่แออัดอาจทำให้เกิดอการกำเริบของโรคจนเป็นอันตราย          

ทั้งนี้ ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และรัฐธรรมนูญ 2560 ล้วนยืนยันในหลักการที่ว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมายได้ว่ามีความผิด ผู้ต้องหาจึงต้องได้รับสิทธิในการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี การเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็นการคลื่อนไหวทางความคิดเพื่อปฏิรูปสังคมการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย มิใช่การก่อความวุ่นวายสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง เราควรมองพวกเขาเป็นเยาวชนที่ตื่นตัวทางการเมืองมิใช่อาชญากร นอกจากนี้ แม้จะถูกฟ้องร้องในหลายข้อหา นักศึกษาก็มิได้มีพฤติกรรมที่จะหลบหนีแต่ประการใดนับตั้งแต่เริ่มการชุมนุมจนถึงวันนี้ จึงขอให้ศาลพิจารณาให้นักศึกษาได้รับสิทธิประกันตัวและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมทุกคนควรได้รับสิทธิในการประกันตัวเช่นเดียวกัน          

3.ขอเรียกร้องให้สังคมเคารพการแสดงออกของนักศึกษา หยุดสร้างวาทกรรมเกลียดชังหรือการยุยงปลุกปั่นด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จต่อการชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำสังคมไปสู่หนทางแห่งความรุนแรง สังคมควรตระหนักว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็นการใช้สิทธิตามหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย เฉกเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆ ทั้งที่เห็นต่างและเห็นตรงกับนักศึกษา ซึ่งรัฐธรรมนูญของไทยได้รับรองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของพลเมืองทุกคนในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างสงบสันติ และอยู่ในกรอบของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เท่าที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า การแสดงออกของนักศึกษาเป็นไปด้วยความสุจริตใจ ด้วยความมุ่งหวังให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า และคนในชาติมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน          

เพื่อให้นักศึกษาได้ดำเนินชีวิตที่มีอิสรภาพตามปกติ สามารถทำหน้าที่เป็นนักศึกษาที่ดี ไปพร้อมกับ การเป็นพลเมืองที่อุทิศตนต่อสังคมได้โดยสมบูรณ์ เราถือเป็นความรับผิดชอบและพันธะทางศีลธรรมของคน          

เป็นครูที่จะต้องช่วยเหลือลูกศิษย์ที่เป็นนักศึกษาอย่างเต็มกำลังความสามารถในยามที่พวกเขาเดือดร้อน ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของนักศึกษาและประชาชน          

นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มคณาจารย์และผู้ปกครอง เข้าเยี่ยมนักศึกษาทั้งสองคนที่ถูกควบคุม หลังย้ายมาจากเรือนจำอำเภอธัญบุรี โดยที่ผ่านมามีเพียงทนายความเท่านั้นที่ได้เข้าเยี่ยม ขณะที่ผู้ปกครองและอาจารย์ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม ซึ่งวันนี้ทนายความจะเพิ่มหลักทรัพย์เป็นเงินสดที่ใช้ประกันตัวในวงเงินที่มากขึ้นเพราะทั้งสองคนมีโรคประจำตัว โดยเพนกวินป่วยเป็นโรคโรคหืดหอบ ขณะที่รุ้งเป็นโรคไมเกรน จึงเกรงว่าสุขภาพจะทรุดโทรมช่วงที่อยู่ภายในเรือนจำ และเชื่อว่าศาลจะเมตตา​ นอกจากนี้ ทั้งสองคนเป็นเด็กเรียนดี โดยเฉพาะ เพนกวิน ได้รับเกียรตินิยม          

"ในวันนี้ทางทนายความจะยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง หากเทียบเคียงกับการที่ศาลปล่อยชั่วคราวไผ่ ดาวดินแล้ว ไม่มีการกำหนดเงื่อนไข หวังว่าทั้งเพนกวินและรุ้งจะได้รับบรรทัดฐานเดียวกัน คือ การปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไข"          

นายประจักษ์ กล่าวต่อว่า การชุมนุมของนักศึกษาเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่มีความวุ่นวาย หากตำรวจไม่มากดดัน เด็กๆ ประกาศยุติการชุมนุมเอง การชุมนุมของนักศึกษาเป็นการแสดงออกทางความคิด ไม่ใช่การก่ออาชญากรรมร้ายแรง เป็นการต่อสู้เพื่อปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ถ้าทุกฝ่ายเคารพการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เราจะไม่เห็นการสลายการชุมนุมเหมือนอย่างเช่นวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา หวังว่ารัฐจะได้รับบทเรียนแล้วว่ายิ่งใช้ความรุนแรงกับนักศึกษาคนก็จะมาร่วมชุมนุมมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ "ปารายนวรรค...