เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 เวลา 19.45 น. ที่แยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลก ได้มีมวลชนได้มานั่งรอขบวนของผู้ชุมนุมที่กำลังเคลื่อนมาจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ชุมนุมสลับกันใช้โทรโข่งเล็กๆ สลับกันปราศรัย พร้อมตะโกนสลับกับปรบมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่ได้มาตั้งแนวกั้นผู้ชุมนุมด้วย พร้อมๆกับตะโกนเรียก "มินเนียนๆ" ใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ที่สวมเสื้อสีเหลือง ระหว่างเดินผ่านผู้ชุมนุมด้วย
เวลา 20.00 น. มวลชนที่มารอขบวนหลักที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ได้มาตั้งแนวกั้นอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ราชวินิตมัธยม ถ.พิษณุโลกแล้ว ซึ่งห่างจากทำเนียบรัฐบาล ไม่ถึง 100 เมตร
เวลา 20.50 น.มวลชนได้เคลื่อนขบวนมาสมทบเป็นจำนวนมากโดยตั้งขบวนหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งตำรวจได้ตั้งจุดสกัดมีรถเมลจอดขวางไว้ คาดว่าจะมีการยืี่นหนังสือหรือข้อเรียกร้อง
ตร.วอน ผู้ชุมนุม ฉุกคิด บุกทำเนียบฯ ผิด ก.ม.-รถฉีดน้ำ จอดรอเป็นปกติ
เวลา 20.00 น. ที่บริเวณแยกพาณิชยการ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการวางแนวว่า จะต้องเริ่มต้นหรือสิ้นสุดตรงไหน มีการปรับกำลังตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ย้ำว่าขณะนี้เป็นช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร พี่น้องประชาชน ที่มารู้อยู่แล้วว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกับการที่มีการเคลื่อนพล มาใกล้สถานที่สำคัญ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเข้ามาในรัศมีที่มาไม่ได้อยู่แล้ว จึงอยากให้ฉุกคิดนิดนึงว่า ท่านกำลังทำผิดกฎหมายอยู่ เพราะในช่วงเย็น นายกฯ ได้แสดงความจริงใจในการที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ รวมถึงการพิจารณายกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากไม่มีสถานการณ์ร้ายแรง ก็จะกลับไปใช้กฎหมายตามปกติ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ปรากฏภาพรถฉีดน้ำแรงดันสูงอยู่รอบทำเนียบรัฐบาล จะมีการสลายการชุมนุมหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เป็นไปตามปกติที่จะต้องมาจอดรอไว้ เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ตำรวจก็จะล่าถอยไม่เข้าไปทำร้ายผู้ชุมนุม โดยเราต้องประเมินไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น