“แรมโบ้” ซัด “พิชัย” ปากเสียแม้แต่ในพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งนายกอบจ.ยังกัดพวกเดียวกัน ย้ำ “บิ๊กตู่” คือสุดยอดนายกฯแล้ว มีประสบการณ์แก้ไขปัญหาได้ดี จนเป็นที่ยอมรับ
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ระบุว่าหากมีการล็อกดาวน์จะทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก และถือเป็นความล้มเหลวของฝ่ายมั่นคงที่คุมโควิดไม่อยู่ ว่า การพิจารณามาตรการในด้านต่างๆ นายกฯและศบค.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ บนพื้นฐานของความเป็นจริง ที่จะต้องรักษาสุขภาพของประชาชน และไม่ให้มีการระบาดของเชื้อ ไปมากกว่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ขณะเดียวกันตนเองมั่นใจว่า
นอกจากนายกฯจะพิจารณามาตรการต่างๆที่จะไม่ให้เชื้อโควิด-19 มีการแพร่ระบาดแล้ว ยังจะพิจารณามาตรการทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
นายสุภรณ์ กล่าวว่านายกฯ เข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นอย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้น จึงขอให้นายพิชัยและสมาชิกพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เพราะได้เคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้วในครั้งที่ผ่านมาที่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาด และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจอีกด้วย โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง และเที่ยวด้วยกัน แม้ว่านายพิชัย จะมองว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ตนเองมองว่าช่วยประชาชนได้ดี จนมีเสียงชื่นชมมาอย่างมากมาย ทำให้ประชาชนมีความพึงพอใจในมาตรการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้การช่วยเหลือประชาชนในระยะยาวนายกฯ รัฐบาล ก็ไม่เคยหยุดคิดที่จะหามาตรการต่างๆออกมาช่วยเหลือเยียวยา
ส่วนที่นายพิชัย มองว่าสาเหตุการระบาดเชื้อโควิด-19 ฝ่ายความมั่นคงต้องเป็นผู้รับผิดชอบที่ปล่อยให้มีการลักลอบของแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายเข้ามานั้น นายสุภรณ์ ระบุว่านายพิชัยอย่ามองเพียงด้านเดียวของผู้ที่ทำผิดกฎหมายหมาย แต่ขอให้มองถึงการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ที่กำชับหน่วยงานมั่นคง คุมเข้มตามแนวชายแดนอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างหนักในการเฝ้าระวังชายแดน และนายกฯย้ำเสมอที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่นำแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายเข้ามา ซึ่งไม่ใช่ว่านายกฯปล่อยปละละเลย
“ยืนยันว่า สถานการณ์ประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีแต่พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้นที่จะช่วยประเทศชาติได้ เพราะเป็นบุคคลที่เอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาให้ประเทศ ซึ่งนายกฯย้ำเสมอว่าคนในชาติจะต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ซึ่งผมเองก็มองว่าพรรคฝ่ายค้านก็ควรร่วมมือกับรัฐบาลเช่นเดียวกัน โดยขอให้คิดทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนบ้าง และนายพิชัยก็ควรถามตัวเองด้วยว่า ปัญหาความแตกแยกในพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้เป็นเพราะนายพิชัย มีนิสัยพฤติกรรมปากเสียและสมองอาจมีปัญหาหรือไม่ สังเกตุได้ว่าพรรคเพื่อไทยกำลังมีปัญหาวุ่นวายอย่างหนักทะเลาะกันเองทุกวัน โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งท้องถิ่นนายกอบจ.เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ไม่ได้ตามเป้าหมาย โดยนายพิชัยกล่าวหาว่า จังหวัดไหนที่คุณหญิงสุดารัตน์ไปทำให้พ่ายแพ้เป็นการดูหมิ่นดูแคลนคุณหญิงหน่อย จนกระทั่งส.ส.ในพรรคเพื่อไทยต้องออกมาโวยวายอัดกลับนายพิชัย ในลักษณะปากไม่ค่อยดี
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจ ว่าทำไมมีคนพูดถึงนายพิชัย ว่าปัญญานิ่ม พูดหรือคิดอะไรที่ฉลาดกว่านี้ไม่เป็น ตนจึงตอบไปว่า อย่าไปถือสาหาความกับคนประเภทนี้เลย แม้แต่ภายในพรรคเพื่อไทยเองยังมีปัญหากับทุกคนไปทั่ว ไปพูดดูถูกเหยียดหยามคนพวกเดียวกัน เที่ยวไล่ฟัดไล่กัดพวกเดียวกัน จนพรรคเพื่อไทยแทบจะพัง คนในพรรคอยากจะลาออกกันหมดแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น