วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

"อนุทิน" ควง "สสจ.เชียงราย" กินกุ้งโชว์ ย้ำอาหารทะเลทานได้แต่ต้องสุก



 "เฉลิมชัย" เร่งช่วยชาวประมงจากผลกระทบโควิด19ระลอกใหม่ ลุยตลาดออนไลน์ออฟไลน์พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูและพัฒนาประมงสร้างความเข้มแข็งทุกมิติ

วันที่ 26 ธันวาคม 2563 ที่ตลาดล้านเมือง อ.เมือง จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากส่วนกลาง, นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และคณะแพทย์ในพื้นที่ ได้ตรวจเยี่ยมมาตการควบคุมโควิด-19 ระหว่างนั้น นายอนุทิน และคณะผู้บริหาร ได้รับประทานประทานกุ้งและอาหารทะเล เพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน 

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ ได้ลงมาตรวจเยี่ยมมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ ซึ่งทางผู้ประกอบการได้เข้ามาหารือเรื่องผลกระทบด้านการประกอบอาชีพ อันเกิดจากประชาชนหวั่นวิตกว่าอาหารทะเลจะมีเชื้อโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม ทางทีมแพทย์ยืนยันว่าอาหารทะเล หากปรุงสุก เชื้อโควิด-19 ก็ตายแล้ว ดังนั้นเพื่อให้ประชาชน เกิดความมั่นใจ จึงได้ร่วมกับคณะแพทย์ รับประทานอาหารทะเลปรุงสุก  ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ ต่างใส่หน้ากากอนามัย อย่างไร ก็ตาม ประชาชน คนไทยทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง เพราะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิด-19

สำหรับสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร จะลงพื้นที่ไปในวันที่ 26 ธันวาคม เพื่อตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม และติดตามความคืบหน้าในการคุมสถานการณ์ ผลการตรวจเชื้อเชิงรุก และรับทราบแนวทางในการควบคุมโรค ขอย้ำว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องของการรักษา ได้เตรียมการอยู่ตลอด การระบาดรอบใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ต่างจากการระบาดรอบแรก วันนี้ ประเทศไทย มีการเตรียมตัว มีความรู้ และมีประสบการณ์ แล้ว และกำลังนำทุกสิ่งทุกอย่างมาบูรณาการเพื่อจัดการกับโรค

ด้านนายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตลาดล้านเมืองเป็นตลาดที่ได้มาตรฐานด้านสาธารณสุข มีการดูแลเรื่องความสะอาดอย่างเคร่งครัด ล่าสุด ได้ตรวจหาเชื้อกับพนักงานไปแล้วประมาณ 250 คน ผลไม่พบเชื้อ สุดท้าย ขอย้ำว่า เชื้อโควิด-19 ตายได้ ด้วยอุณหภูมิสูงมากๆ ดังนััน อาหารจะปลอดเชื้อโควิด-19 เมื่อผ่านการปรุงสุกมาแล้ว

"เฉลิมชัย"เร่งช่วยชาวประมงจากผลกระทบโควิด19ระลอกใหม่ 


นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย พร้อมด้วย นายอรุณชัย พุทธเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุวิทย์ คชสิงห์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมประมง ตัวแทนสมาคมประมง ชาวประมง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมง ครั้งที่ 11/2563 

ทั้งนี้นายอลงกรณ์เปิดเผยว่าที่ประชุมพิจารณาวาระสำคัญ และวาระเร่งด่วนในหลายประเด็นที่เป็นวาระเร่งด่วนโดยมีการผลสรุปการประชุมมีดังนี้1.การสำรวจทรัพยากรประมงทะเลลึกในบริเวณทะเลอันดามันร่วมภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ จะดำเนินการสำรวจในบริเวณที่ไม่เคยทำประมงมาก่อน ร่วมกันระหว่างภาครัฐโดยกรมประมง และภาคเอกชน โดยสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนการปฏิบัติงาน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อแหล่งประมงใหม่ของประเทศไทย

2.การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำโขง จากผลกระทบการสร้างเขื่อนในลำน้ำโขง นั้น ขณะนี้กรมประมงได้รวบรวมข้อมูลและส่งเรื่องถึงกระทรวง ก่อนนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การหารือ ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission – MRC) เพื่อหาทางออกสำหรับปัญหานี้

3.การแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้าประมงไปสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรายชื่อสัตว์น้ำจำนวน 23 ชนิด และได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เสนอต่อสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และฝ่ายการเกษตรประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ต่อไป

4.การจัดทำแผนการส่งเสริมด้านการตลาดปลาสวยงามตลอดสายการผลิต ซึ่งขณะนี้แผนงานเสร็จแล้วและและนำเสนอร่างแผนการส่งเสริมด้านการตลาดปลาสวยงามตลอดสายการผลิตให้คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อพิจารณานำไปสู่การปฏิบัติต่อไป

5.การแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ทั้งการแก้ไขปัญหาขี้ขาวในกุ้งทะเลที่ได้มีงานวิจัยและแผนในการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป โครงการเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง (ลดต้นทุนพลังงาน และปรับปรุงระบบฟาร์ม) โดยได้เสนอโครงการไปยังกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพิจารณาจัดสรรเงินดำเนินงาน โครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งทะเลขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอเข้า คณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป

5.โครงการปรับปรุงการทำประมง (Fishery Improvement Project: FIP) เพื่อเข้าสู่มาตรฐานประมงยั่งยืนสากล ขณะนี้กรมประมงเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ยื่นเสนอขอรับทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ภายในธันวาคม 2563 เพื่อข้อมูลสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว 

นอกจากนี้กรมประมงและสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทยได้ร่วมกันจัดงานสัมมนา ร่วมกันระหว่าง ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) สมาคมประมงอวนล้อมจับประเทศไทย ผู้ประกอบการ ชาวประมงที่เกี่ยวข้อง และบริษัท Key Traceability ซึ่งเป็นผู้ประเมินตามมาตรฐาน MSC ผลการสัมมนาเป็นไปในทิศทางที่ดี ผู้ประกอบการและชาวประมงให้การยอมรับ และคาดว่าจะนำข้อมูลที่ได้รับไปปรับใช้ในการทำประมงอย่างมีความรับผิดชอบ และเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวเข้าสู่มาตรฐานประมงยั่งยืนต่อไป

6.โครงการ Fisherman Village Resort โดยขณะนี้มีหมู่บ้านชุมชนชาวประมงชายฝั่ง เพิ่มเติมรวมจำนวน 7 แห่ง 6 จังหวัด ได้แก่ ไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนจังหวัดละ 1 แห่ง จังหวัดกระบี่และพังงา จำนวน 3 แห่ง เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยวิถีชุมชน เพื่อต่อยอดให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลาย ๆ ด้าน บูรณาการร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม หรือ AIC ในแต่ละพื้นที่ 

7.โครงการส่งเสริมพัฒนาการกระจายสินค้าประมงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคกำหนด (Kick/off) ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Staion โดยในงานได้เชิญผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล (Influencer) เช่น บังฮาซันอาหารทะเล และเชฟญี่ปุ่นครัวการบินไทย ช่วยประชาสัมพันธ์ต่อไป

8.ความก้าวหน้าการดำเนินงานคณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติสภาการประมง พ.ศ. .... ขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการตรวจสอบความครบถ้วนของข้อมูล และร่างพระราชบัญญัติกองทุนประมง พ.ศ. .... ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลงนามในหนังสือนำเรียนรองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

9.ความก้าวหน้าโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง โดยขณะนี้มีผู้ได้รับอนุมัติโครงการสินเชื่อจำนวน 388 ราย วงเงินกว่า 339 ล้านบาท

10.ความก้าวหน้าโครงการนำเรือออกนอกระบบ ขณะนี้โครงการระยะที่ ๑ (ระยะเร่งด่วน) ได้เสร็จสิ้นแล้ว เข้าสู่การพิจารณาช่วยเหลือในกลุ่มต่อไป

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษครและสหกรณ์ห่วงใยพี่น้องชาวประมงและได้ฝากให้กรมประมงและทุกภาคีภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาประมงรวมทั้งการรับมือกับปัญหา COVID-19 ที่เกิดการระบาดรอบใหม่ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวประมงและภาคอุตสาหกรรมประมงไทยโดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและขอให้คณะกรรมการอนุกรรมการทุกคณะและกรมประมงช่วยกันจำหน่ายสินค้าประมงทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์โดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิดด้วย


 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...