วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - มัจฉริสูตร: ศรัทธาแห่งการให้ (ยังไม่สมบูรณ์)

ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  

มัจฉริสูตร:  ศรัทธาแห่งการให้

(ท่อน 1)

เมื่อความตระหนี่ครองใจ

ชีวิตก็เหมือนถูกปิดขัง

มีแต่ขาดแคลนและทุกข์ยิ่งใหญ่

แม้สิ่งที่หวังก็ไม่สมดั่งใจ

(ท่อน Hook)

แต่หากเปิดใจให้แสงธรรม

ปราศจากความโลภและทุกข์ภัย

ศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในใจ

เราจะพบสุขจริงในโลกและสวรรค์

(ท่อน 2)

การให้ที่แท้คือหนทางแห่งบุญ

ทำลายความตระหนี่ที่รั้งเราไว้

ชีวิตจะเปลี่ยนไปดั่งสายลมเย็นในใจ

พบกับความสุขที่ไม่เคยไกล

(ท่อน Hook)

แต่หากเปิดใจให้แสงธรรม

ปราศจากความโลภและทุกข์ภัย

ศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในใจ

เราจะพบสุขจริงในโลกและสวรรค์

(ท่อน Bridge)

จากชีวิตที่ตระหนี่และเหนียวแน่น

สู่ความสุขที่ไม่ถูกกักขัง

ศรัทธาแห่งการให้คือพลัง

เปลี่ยนทุกข์ให้กลายเป็นความสุขที่แท้จริง

(ท่อน Hook)

เปิดใจให้แสงธรรม

ปราศจากความโลภและทุกข์ภัย

ศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในใจ

เราจะพบสุขจริงในโลกและสวรรค์

(Outro)

การให้เป็นทางสว่างแห่งชีวิต

เปลี่ยนความมืดให้กลายเป็นแสง

ศรัทธาและการให้ นำเราไปสู่สุขที่แท้

ในโลกนี้และภพหน้า

 มัจฉริสูตรที่ ๙

             [๑๔๘] เทวดาทูลถามว่า

                          คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขา

                          ทำการกีดขวางคนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่ ฯ

                          วิบากของคนพวกนั้นจะเป็นเช่นไร และสัมปรายภพของเขา

                          จะเป็นเช่นไร ฯ

                          ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จึง

                          จะรู้ความข้อนั้น ฯ

             [๑๔๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

                          คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขา

                          ทำการกีดขวางคนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่ ฯ

                          คนเหล่านั้นย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือยมโลก

                          ถ้าหากถึงความเป็นมนุษย์ ก็เกิดในสกุลคนยากจน ซึ่งจะหา

                          ท่อนผ้า อาหาร ความร่าเริงและความสนุกสนานได้โดยยาก ฯ

                          คนพาลเหล่านั้นต้องประสงค์สิ่งใดแต่ผู้อื่น เขาย่อมไม่ได้แม้

                          สิ่งนั้น สมความปรารถนา นั่นเป็นผลในภพนี้ และภพหน้า

                          ก็ยังเป็นทุคติอีกด้วย ฯ

             [๑๕๐] เทวดาทูลถามว่า

                          ก็ข้อนี้ข้าพระองค์เข้าใจชัดอย่างนี้ (แต่) จะทูลถามข้ออื่น

                          กะพระโคดม ชนเหล่าใดในโลกนี้ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว

                          รู้ถ้อยคำ ปราศจากความตระหนี่ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า

                          พระธรรมและพระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า วิบาก

                          ของชนเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร และสัมปรายภพของเขาจะ

                          เป็นเช่นไร ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉน

                          ข้าพระองค์จึงจะรู้ความข้อนั้น ฯ

             [๑๕๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

                          ชนเหล่าใดในโลกนี้ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว รู้ถ้อยคำ ปราศ-

                          *จากความตระหนี่ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรมและ

                          พระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า ชนเหล่านี้ย่อมปรากฏ

                          ในสวรรค์อันเป็นที่อุบัติ หากถึงความเป็นมนุษย์ ย่อมเกิด

                          ในสกุลที่มั่งคั่ง ได้ผ้าอาหารความร่าเริงและความสนุกสนาน

                          โดยไม่ยาก พึงมีอำนาจแผ่ไปในโภคทรัพย์ที่ผู้อื่นหาสะสม

                          ไว้ บันเทิงใจอยู่ นั่นเป็นวิบากในภพนี้ ทั้งภพหน้าก็เป็น

                          สุคติ ฯ

สรุปสาระสำคัญของ มัจฉริสูตร:

ใน มัจฉริสูตร เทวดาได้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงผลวิบากของผู้ที่มีความตระหนี่ และพระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า:

คนที่ตระหนี่ เหนียวแน่น และกีดขวางผู้อื่นที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จะต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่ร้ายแรง เช่น การเข้าถึงนรก กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือไปยังยมโลก ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลที่ยากจน ขาดแคลนผ้า อาหาร และความร่าเริง ไม่มีความสุข

แม้ในภพปัจจุบัน คนเหล่านี้ก็จะประสบกับการขาดแคลนในสิ่งที่ตนต้องการ และในสัมปรายภพก็จะประสบกับทุกข์มากขึ้นไปอีก

จากนั้นเทวดาถามถึงผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และปราศจากความตระหนี่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า:

ผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้าในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปราศจากความตระหนี่ จะได้บังเกิดในสวรรค์ และหากเกิดเป็นมนุษย์จะเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ได้ผ้า อาหาร ความร่าเริง และความสุขโดยไม่ยาก มีอำนาจและโภคทรัพย์มากมาย เป็นที่ยอมรับในสังคมและมีความสุขทั้งในภพนี้และภพหน้า.


หลักธรรมใน มัจฉริสูตร ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน:

การหลีกเลี่ยงความตระหนี่ – การมีจิตใจเปิดกว้างและไม่ยึดติดในทรัพย์สิน ช่วยส่งเสริมความสุขในชีวิตและความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม ความตระหนี่จะนำมาซึ่งความทุกข์และความขาดแคลนในอนาคตทั้งภพนี้และภพหน้า.

การส่งเสริมความศรัทธาและการให้ทาน – การแสดงออกถึงความศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และการให้ทานไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงความมีน้ำใจ แต่ยังนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และโชคลาภในชีวิตด้วย.

การมองเห็นคุณค่าของการให้ – การให้เป็นการสร้างบุญกุศลและความสุข ไม่เพียงแต่ในชีวิตปัจจุบันแต่ยังมีผลต่อการดำรงอยู่ในสัมปรายภพด้วย การมีน้ำใจต่อผู้อื่นเป็นการสร้างสังคมที่มีความเมตตาและเอื้อเฟื้อกัน.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โครงสร้างนิยายเรื่อง "สันติที่รัก"

โครงสร้างนิยายเรื่อง "สันติที่รัก" 1. บทนำ เปิดเรื่อง : สันติสุข ชายหนุ่มนักเขียนนิยายธรรมะที่ต้องการค้นหามิติใหม่ของการเล่าเรื่อง...