หลักสูตรนวัตกรเจน Z ที่ขับเคลื่อนโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมกับสถาบันพอเพียงกลาง มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะและจิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพุทธสันติวิธีเป็นกรอบแนวคิด การประยุกต์ใช้พุทธสันติวิธีในหลักสูตรนี้จะช่วยเสริมสร้างการพัฒนาให้เป็นไปอย่างมีความหมายและยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น แต่ยังสร้างสังคมที่มีสันติสุขอย่างแท้จริง
ปัจจุบันการพัฒนาที่ยั่งยืนมีความสำคัญยิ่งในการสร้างสังคมที่เจริญก้าวหน้าและเป็นสุข โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือเจเนอเรชัน Z ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มีความสามารถในการสร้างสรรค์และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การออกแบบหลักสูตรที่สามารถพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมในด้านทักษะนวัตกรรมควบคู่กับการมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมกับสถาบันพอเพียงกลาง โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ประมุข อุณหเลขกะ และพลโทธิติชัย ปรีชา ได้บันทึกลงนามความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักศาสตร์พระราชา เพื่อเสริมสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ที่มีจิตอาสาและตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเชิงพื้นที่ ชุมชน และสังคมให้ยั่งยืน
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักศาสตร์พระราชาในบริบทการพัฒนานวัตกรเจน Z
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชาเป็นแนวคิดที่เน้นการพึ่งพาตนเองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงการกระจายผลประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน สถาบันพอเพียงกลางและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิได้ร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตร "นวัตกรเจน Z" เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และเสริมสร้างสมรรถนะทางจิตใจที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาสังคมไทย
การพัฒนาหลักสูตรนี้ได้ตั้งเป้าหมายให้คนรุ่นใหม่มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ให้ยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาทักษะจิตอาสาในกลุ่มนักศึกษา ให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและมีความตระหนักรู้ในค่านิยมของความเป็นพลเมือง การสร้างศูนย์บริการนวัตกรรมลุ่มน้ำในมหาวิทยาลัยเพื่อให้บริการแก่ชุมชนและเครือข่ายสถาบันลุ่มน้ำต่าง ๆ ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สถาบันใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
บริบทพุทธสันติวิธีในหลักสูตรนวัตกรเจน Z
พุทธสันติวิธีเป็นวิถีทางในการสร้างความสงบสุขในชีวิตและสังคมโดยอาศัยหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผ่านการเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และการดำรงอยู่ในสังคม โดยเฉพาะหลักการอหิงสา การไม่เบียดเบียน และการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตาและกรุณา นอกจากนี้ พุทธสันติวิธีให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิตใจและปัญญาของแต่ละบุคคล ซึ่งช่วยลดความขัดแย้งและเสริมสร้างความร่วมมือในสังคม
แนวคิดพุทธสันติวิธีสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหลักสูตรนวัตกรเจน Z โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาปัญญาและการตระหนักรู้เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถพิจารณาถึงปัญหาอย่างลึกซึ้ง รู้จักวิธีการแก้ปัญหาอย่างอ่อนโยนและมีเมตตา ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานของสังคมที่มีสันติสุข
หลักการ อุดมการณ์ และวิธีการในการสร้างนวัตกรเจน Z ที่ยึดหลักพุทธสันติวิธี
หลักอหิงสา (การไม่เบียดเบียน) – ส่งเสริมให้นักศึกษาและผู้เข้าร่วมหลักสูตรมีจิตสำนึกในการเคารพความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน
เมตตาและกรุณา – สนับสนุนการสร้างทัศนคติที่ดีต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแรง
การพัฒนาปัญญาและสติ – พัฒนาความสามารถในการตัดสินใจและการพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงการฝึกสติให้มีความตระหนักรู้ในพฤติกรรมของตนเองและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสันติสุข
ยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ของหลักสูตรนวัตกรเจน Z สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรนวัตกรเจน Z คือการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะนวัตกรรมพร้อมด้วยจิตสำนึกสาธารณะ โดยยุทธศาสตร์ในการพัฒนานี้ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่ การศึกษา การฝึกอบรม และการให้โอกาสในการพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคลให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคม ยุทธศาสตร์นี้ยังมุ่งเน้นการสนับสนุนโครงการนวัตกรจิตอาสาที่จะช่วยเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และความสามารถในการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
สนับสนุนการพัฒนานวัตกรเจน Z ที่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม – นโยบายควรสนับสนุนการบูรณาการแนวคิดพุทธสันติวิธีและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับการพัฒนานวัตกรรุ่นใหม่ โดยการสร้างหลักสูตรที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างคุณค่าความเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในภาคการศึกษาและชุมชน – ควรจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น
การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม – รัฐควรสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณค่าในเชิงนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น