เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 256 7 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง ดร.นิยม เวชกามา (ดร.มหานิยม) อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สกลนคร เป็น “ข้าราชการการเมือง” พร้อมด้วยนักการเมืองและผู้ทรงคุณวุฒิอีกจำนวน 10 คน
มติคณะรัฐมนตรีในคร้ังนี้มอบหมายให้ ดร.นิยม เวชกามา ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรี ช่วยงานพระพุทธศาสนา ขับเคลื่อนนโยบายของ รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่มอบนโยบายไว้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 8 นโยบาย ประกอบด้วย 1. การดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนา 2.การจัดการเรื่องปัญหาที่ดินวัด โดยจะดำเนินตั้งคณะกรรมการระดับชาติ 3.แนวทางการอุปถัมภ์วัดและคณะสงฆ์ 4.การเผยแผ่พระพุทธศาสนา 5. การปรับโครงสร้างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 6.การดูแลวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน7.การพัฒนาพุทธมณฑล โดยเฉพาะการบูรณะพระพุทธรูปองค์ประธานประจำพุทธมณฑล และ 8.การสนองนโยบาย เรื่องรัฐบาล Digital การบูรณาการร่วมกัน เช่น การทำทะเบียนของพระสงฆ์
ดร.นิยม เวชกามา เปิดเผยหลังจากทราบมติคณะรัฐมนตรี ว่า หลังจากนี้จะเข้าพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล เพื่อขอคำชี้แนะซึ่งตนเองสถัดเรื่องพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์อยู่แล้วไม่มีปัญหา
“อย่างที่เคยบอกว่าที่ผ่านมาต้องขอโทษคณะสงฆ์และชาวพุทธว่าที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย อาจดูแลคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาไม่ดีพอ แต่ต่อจากนี้รับปากว่าจะทำให้เต็มความสามารถ และต้องขอบคุณผู้บริหารพรรค นายกรัฐมนตรี รวมทั้งอาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่มอบความไว้วางใจให้เข้ามาช่วยกิจการพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ การทำงานต่อจากนี้จะรับฟังจากพระเถระผู้ใหญ่ และชาวพุทธทุกท่าน จะทำงานแบบถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนาและ คณะสงฆ์ รวมทั้งจะขับเคลื่อนนโยบาย 8 ประการของท่านรัฐมนตรีให้เต็มที่ และอาจมีนโยบายอื่น ๆ เข้ามาเสริมอีกเพื่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ เพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเรา..”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางในาการดำเนินการตามนโยบาย 8 ข้อนั้นดังนี้
การดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนา
นโยบายนี้มุ่งเน้นการสร้างกลไกตรวจสอบและความโปร่งใสในการบริหารกิจการพระพุทธศาสนา ควรมีการสร้างความตระหนักรู้ในหมู่คณะสงฆ์เกี่ยวกับการรักษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai_28.html
การจัดการปัญหาที่ดินวัด
การตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินวัดที่ทับซ้อนกับหน่วยงานอื่น เป็นแนวทางที่สำคัญ แต่ต้องมีการกำหนดขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน และประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/blog-post_56.html
แนวทางการอุปถัมภ์วัดและคณะสงฆ์
การอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาควรมีมาตรการที่เข้มงวดและโปร่งใส เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความซื่อสัตย์ของการดำเนินงาน https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/blog-post_34.html
การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ควรใช้สื่อสมัยใหม่และโครงการที่เข้าถึงง่ายในการเผยแผ่ธรรมะ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่อาจมีความสนใจน้อยลง https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai.html
การปรับโครงสร้างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai_2.html
การดูแลวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน
การส่งเสริมให้วัดมีบทบาทสำคัญในชุมชนสามารถทำได้โดยการจัดกิจกรรมที่มีประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai_46.html
การพัฒนาพุทธมณฑล
การบูรณะวัตถุศักดิ์สิทธิ์ต้องมีการจัดทำแผนที่ชัดเจนและงบประมาณที่เพียงพอ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai_53.html
การสนองนโยบายรัฐบาล Digital
การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำทะเบียนพระสงฆ์จะช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ควรมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถใช้ระบบนี้ได้อย่างถูกต้อง https://siampongsnews.blogspot.com/2024/11/ai_64.html
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
สร้างกลไกการตรวจสอบภายใน
ควรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่มีความเป็นอิสระในการทำงานเพื่อสร้างความมั่นใจในความโปร่งใสของการบริหารจัดการ
กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ชัดเจน
ควรมีการประชุมและทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแนวทางการจัดการที่ดินวัดให้ชัดเจนและเป็นระบบ
พัฒนาระบบการเผยแผ่ธรรมะผ่านสื่อใหม่
ควรมีการจัดทำโครงการที่ใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
ประเมินและปรับปรุงโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่อง
การปรับโครงสร้างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรมีการประเมินประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคม
สนับสนุนการพัฒนาวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน
ควรมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในวัด เพื่อให้วัดเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น