Generative AI นับเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงในการสนับสนุนการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้งานต้องควบคู่กับการตระหนักถึงความท้าทายและข้อควรระวัง การปรับตัวและการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำ Generative AI มาใช้เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้คงอยู่อย่างยั่งยืนในยุคใหม่
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 (NBT) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานครบรอบ 90 วันที่รัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบนโยบายแก่ข้าราชการระดับสูง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ภายใต้แคมเปญ ‘2568 โอกาสไทย ทำได้จริง : 2025 Empowering Thais: A Real Possibility’ พร้อมมอบนโยบายให้แก่รองนายกฯ-รัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบในแต่ละนโยบายด้วย โดยระบุตอนหนึ่งว่า เรื่องเทคโนโลยี และ AI รัฐบาลไทยตั้งเป้าจะเป็น AI Hub ของภูมิภาค เนื่องจากในปัจจุบัน มีบริษัทใหญ่มาลงทุนทำศูนย์ข้อมูล (Data center) เป็นเงินลงทุนมากกว่าล้านล้านบาทแล้ว
ดังนั้นในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของชีวิตมนุษย์ การเผยแพร่พระพุทธศาสนาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น Generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ได้โดยอัตโนมัติ อาทิ ข้อความ ภาพ และเสียง ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการสื่อสารและการเผยแผ่หลักธรรมคำสอน การนำ Generative AI มาใช้ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการเข้าถึงผู้คนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวยังมาพร้อมกับความท้าทายและข้อควรระวังที่สำคัญ บทความนี้จะวิเคราะห์โอกาส ความท้าทาย และการปรับตัวในการใช้ Generative AI เพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในยุคใหม่
โอกาสในการนำ Generative AI มาใช้
การเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวาง
Generative AI สามารถผลิตเนื้อหาในหลายภาษาและปรับให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การแปลธรรมะเป็นภาษาต่าง ๆ หรือการสร้างสื่อมัลติมีเดียที่เข้าถึงง่าย ช่วยให้พระพุทธศาสนาเข้าถึงผู้คนในพื้นที่ที่อาจไม่มีการเผยแผ่ในรูปแบบดั้งเดิม
การสร้างสื่อธรรมะที่น่าสนใจ
ด้วยความสามารถในการสร้างเนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟ Generative AI สามารถสร้างบทสวดมนต์ เสียงบรรยายธรรมะ หรือภาพประกอบที่สอดคล้องกับคำสอนในพระพุทธศาสนา เช่น การสร้างภาพสมมุติของโลกในมุมมองพุทธปรัชญา
การสนับสนุนการศึกษาและการปฏิบัติธรรม
AI สามารถช่วยออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ธรรมะที่เป็นส่วนบุคคล เช่น การสร้างบทเรียนหรือการแนะนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับระดับความรู้และความสนใจของผู้เรียน
ความท้าทายที่ต้องเผชิญ
ความถูกต้องของเนื้อหา
การสร้างเนื้อหาทางพระพุทธศาสนาโดย AI อาจมีความผิดพลาดหรือตีความผิดจากหลักธรรมที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบโดยผู้รู้หรือพระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญ
การรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา
การใช้ AI ในการเผยแพร่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการละเมิดความศักดิ์สิทธิ์ เช่น การใช้ภาพหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในบริบทของพระพุทธศาสนา
ปัญหาด้านจริยธรรมและการใช้ข้อมูล
AI จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากในการเรียนรู้ การนำข้อมูลทางพระพุทธศาสนามาใช้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและไม่ละเมิดสิทธิของผู้สร้างสรรค์เนื้อหา
การปรับตัวเพื่อการเผยแพร่ที่ยั่งยืน
การพัฒนา AI ที่คำนึงถึงมิติทางศาสนา
ควรมีการออกแบบ AI ที่เข้าใจและเคารพในคุณค่าทางศาสนา โดยร่วมมือกับพระสงฆ์ นักวิชาการ และนักพัฒนาเทคโนโลยี
การส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้งานอย่างมีวิจารณญาณ
การอบรมพระสงฆ์และผู้เผยแพร่ธรรมะเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
การสร้างกรอบการกำกับดูแล
ควรมีกฎเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการใช้ AI ในบริบทของพระพุทธศาสนา เพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น