วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567

สาธุดังๆ! กก.พระปริยัติธรรม! ย้ำความสำคัญ “เครือข่าย -ไอที-การวิจัย” เพื่อยกระดับการศึกษาคณะสงฆ์ไทย

เมื่อวันที่ 20   ธันวาคม  2567  เวลา 15.00 ที่ ห้องประชุมสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม แม่กองธรรมสนามหลวง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยมีดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม 

ดร.นิยม เวชกามา เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การประชุมในคราวนี้ได้รับมอบหมายจากรองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้มาร่วมประชุม ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สาระกันประชุมในวันนี้มีหลายประเด็นด้วยกัน ทั้งเรื่องที่ดำเนินการมาแล้วแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ และนโยบายที่จะขับเคลื่อนต่อ เรื่องที่ดำเนินการแล้ว เช่น การประชุมสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนระบบประกันคุณภาพการศึกษา จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เป็นการยกระดับการศึกษาของคณะสงฆ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อให้การศึกษาพระปริยัติธรรมสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล  การอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม เพื่อให้ครูสามารถนำไปใช้ในการสอนจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประชุมร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

“ที่ประชุมได้มีการยกประเด็นการสร้างเครือข่ายการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยการเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การใช้เทคโนโลยีในการศึกษา ซึ่งในยุคปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีในการศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ และทำให้การศึกษาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การสร้างสื่อการสอนออนไลน์ การจัดการเรียนการสอนผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และรวมทั้งคณะสงฆ์ควรจะต้องส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา การสนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร และการประเมินผลการเรียนรู้ จะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนและสังคมต่อไปด้วย..”

แนะปรับรูปแบบการจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์ไทยในยุคเอไอ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้วิเคราะห์รูปแบบการจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์ไทยในยุคเอไอ พบว่า การจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์ไทยในยุค AI มีข้อดีหลายประการ เช่น การเพิ่มการเข้าถึงการศึกษา การประเมินผลที่แม่นยำ และการลดต้นทุนในการจัดการเรียนการสอน อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น การขาดโอกาสในการปฏิบัติจริงและการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ไม่เท่าเทียม การปรับใช้ AI ในการจัดการศึกษาจึงต้องคำนึงถึงการสร้างความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับการฝึกฝนทางศาสนา เพื่อให้การศึกษานักธรรมยังคงรักษาคุณค่าและความสำคัญตามหลักพระพุทธศาสนา

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายด้านของสังคม การศึกษาก็เช่นกันที่ต้องเผชิญกับการปรับตัว คณะสงฆ์ไทยมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการศึกษานักธรรมสนามหลวงเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยพัฒนาความรู้ความเข้าใจด้านพระพุทธศาสนาในหมู่พระสงฆ์และฆราวาส อย่างไรก็ตาม ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การจัดการศึกษาในรูปแบบดั้งเดิมก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการผสมผสานนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้การศึกษาเหล่านี้ยังคงทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะวิเคราะห์รูปแบบการจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์ไทยในยุค AI โดยเน้นถึงข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบการศึกษา ทั้งในด้านโครงสร้างของการเรียนการสอนและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ส่งผลต่อการศึกษาของพระสงฆ์

1. การศึกษานักธรรมสนามหลวง: ความสำคัญและโครงสร้าง

การศึกษานักธรรมสนามหลวงมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางพระพุทธศาสนาและวินัยสงฆ์ให้แก่พระภิกษุสามเณร รวมถึงฆราวาสที่สนใจเรียนรู้ โดยการศึกษานี้มีการสอบแบ่งออกเป็นสามระดับ ได้แก่ นักธรรมชั้นตรี นักธรรมชั้นโท และนักธรรมชั้นเอก ซึ่งแต่ละระดับจะมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งขึ้นตามลำดับ

โครงสร้างการศึกษานี้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาทั้งด้านปริยัติธรรม (คำสอน) และปฏิบัติธรรม (การฝึกปฏิบัติ) เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในหลักพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ และเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับพระสงฆ์ในการเผยแผ่ศาสนา การจัดการศึกษาในรูปแบบนี้ถูกควบคุมและดูแลโดยคณะสงฆ์ไทย โดยมีการจัดการสอบสนามหลวงที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดคณะสงฆ์

2. การเปลี่ยนแปลงของการจัดการศึกษาในยุค AI

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้นำเสนอเครื่องมือและแนวทางใหม่ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการศึกษานักธรรมสนามหลวงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนและการสอบผ่านระบบออนไลน์ AI สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาเนื้อหาและการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การใช้ AI ในการตรวจสอบข้อสอบ การวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ และการเสนอแนะเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้เรียนตามระดับความรู้

ในด้านการเผยแผ่ธรรมะ เทคโนโลยี AI ยังสามารถช่วยในการเผยแพร่พระธรรมคำสอนผ่านสื่อออนไลน์และแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงและให้โอกาสแก่คนที่ไม่สามารถเข้าร่วมการเรียนการสอนในสถานที่จริงได้ การเข้าถึงข้อมูลผ่านช่องทางดิจิทัลนี้ยังเปิดโอกาสให้การศึกษาพระพุทธศาสนาขยายตัวไปสู่ผู้คนหลากหลายกลุ่มมากขึ้น

3. ข้อดีของการใช้ AI ในการจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวง

การเข้าถึงเนื้อหาได้สะดวกและรวดเร็ว AI ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงสื่อการสอนได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียน การฟังธรรมะออนไลน์ หรือการใช้แอปพลิเคชันในการฝึกปฏิบัติ

การประเมินผลที่แม่นยำ ด้วยการใช้ AI ในการตรวจข้อสอบและวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถได้รับผลการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้คณะสงฆ์สามารถปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ลดต้นทุนและเวลา การจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ช่วยลดต้นทุนในการเดินทางและการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้ เช่น การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แทนการพิมพ์หนังสือ การเรียนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ฯลฯ

4. ข้อเสียและความท้าทาย

แม้การใช้ AI จะนำมาซึ่งข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีความท้าทายและข้อเสียที่ต้องพิจารณา:

การขาดการปฏิบัติจริง พระธรรมวินัยเน้นทั้งปริยัติและปฏิบัติธรรม การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์อาจทำให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน เช่น การปฏิบัติกิจกรรมสงฆ์และการเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการฝึกปฏิบัติธรรม

การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ไม่เท่าเทียมกัน แม้ AI จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงข้อมูล แต่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงเทคโนโลยีในบางพื้นที่ เช่น พื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่ไม่มีทักษะด้านเทคโนโลยี อาจไม่สามารถใช้ประโยชน์จากระบบการเรียนการสอนที่ใช้ AI ได้อย่างเต็มที่

ความเสี่ยงในการพึ่งพาเทคโนโลยี การพึ่งพา AI ในการศึกษามากเกินไปอาจทำให้ขาดการตัดสินใจและการปฏิสัมพันธ์ในเชิงมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้พระพุทธศาสนา

5. ผลกระทบต่อสังคมพระพุทธศาสนา

AI ส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษานักธรรมสนามหลวงในหลายด้าน หนึ่งในผลกระทบสำคัญคือการขยายการเข้าถึงการศึกษาพระพุทธศาสนาไปสู่กลุ่มคนที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ยังส่งผลให้รูปแบบการศึกษามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม การปรับใช้เทคโนโลยียังต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีกับการปฏิบัติธรรมในชีวิตจริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แนะนำหนังสือนิยายอิงธรรมะ: บาลีที่รัก

  เนื้อหาหนังสือนิยายอิงธรรมะ "บาลีที่รัก" บทนำ แนะนำตัวละครและฉากหลัง ทองสุข : ชายหนุ่มนักเขียนนิยายอิงธรรมะที่มีความรู้ด้านบาลีจ...