"เก่ง การุณ"นิยามปฏิรูปใหม่ เหน็บ"ชิมช้อป งูเห่าไปวันๆ" ด้าน"เทพไท" จี้สอบ "ชวน" ยันรปภ. ปล่อย "ไวพจน์" เข้าสภาฯ
วันที่ 5 ธนวาคม 2562 นายการุณ โหสกุล หรือ 'เก่ง' ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวชื่อ การุณ โหสกุล ระบุว่า...การปฏิรูปการเมืองหมายถึงการ Shopping งูเห่าเป็นวันๆไปใช่ไหมครับ #ลุงข้างบ้าน
"เทพไท"จี้สอบ"ชวน"ยันรปภ. ปล่อย"ไวพจน์"เข้าสภาฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ซึ่งถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ เพื่อนำตัวไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 มกราคม 2563 ในคดีล้มการประชุมอาเซียน และมาปรากฏตัวในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือได้ว่าเป็นผู้ต้องหาที่กระทำความผิดโดยมีหมายจับอย่างชัดเจน เมื่อมีการปรากฏตัวเกิดขึ้นเช่นนี้ ผู้มีหน้าที่ในการจับกุมต้องเร่งจับกุมตัวผู้กระทำผิดส่งศาลจังหวัดพัทยาให้ได้ แต่เมื่อ พ.ต.ท.ไวพจน์ มาปรากฎตัวที่อาคารรัฐสภา จะต้องพิจารณาในข้อกฎหมายว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 หรือไม่
ทั้งนี้ มาตรา 189 ได้มีบทบัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
"เพราะฉะนั้นถ้าการปรากฏตัวของ พ.ต.ท.ไวพจน์ ที่อาคารรัฐสภา หากเป็นความผิดตามมาตรา 189 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จะต้องตั้งคำถามว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความผิดตามมาตรานี้ เพราะถือว่าเป็นการให้ที่พักพิงหรือพบตัวผู้กระทำผิดแล้วไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย จะมีความผิดหรือไม่ ซึ่งจะต้องสอบข้อเท็จจริงกับบุคลากรของรัฐสภาที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ รปภ. หรือตำรวจสภา จนถึงประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่" นายเทพไท กล่าว
"นิพิฏฐ์"โพสต์หนึ่งคนหนีไปต่างประเทศอีกคนหนีเข้าสภา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์แฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ถึงกรณี พ.ต.ท.ไวพจน์ว่า "คนหนึ่ง หนีหมายจับของศาลไปต่างประเทศ อีกคนหนึ่ง หนีหมายจับของศาลเข้ามาลงมติในสภาผู้แทนราษฎร"
ต่อมาได้ยังโพสต์ข้อความว่า "ท่านคิดว่าตำรวจไทย จะกล้าจับส.ส.ที่ศาลออกหมายจับหรือไม่"
และข้อความล่าสุดโดยระบุถึงความยุติธรรมว่า *ความยุติธรรมต้องมีกำลังอยู่ข้างหลัง -ความยุติธรรมต้องมีกำลังอยู่ข้างหลัง หมายความว่า เมื่อศาลตัดสินแล้ว ตำรวจต้องจับ เมื่อตำรวจจับแล้ว ราชทัณฑ์ต้องขัง ลองคิดดูว่า ถ้าศาลตัดสินแล้วแต่ตำรวจไม่จับ หรือ ตำรวจจับแล้วราชทัณฑ์ไม่ขัง ความยุติธรรมก็ไม่เกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้อำนวยให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นได้ คำตอบคือ การเมืองที่ดีครับ #นิพิฏฐ์ผู้แทนนอกสภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น