วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2567

"ณพลเดช" ถกพศ. ปม "ว.วชิรเมธี" โพสต์ ชี้อาจได้นอนคุก จี้สำนักพุทธร้องทุกข์กล่าวโทษ



เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567   ที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ดร.ณพลเดช มณีลังกา ว่าที่ สว. จังหวัดเชียงราย และ อดีตอนุกรรมาธิการฯศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโต้ตอบกันไปมา กรณีของ เจ้าคุณ ว.วชิรเมธี ประเด็นดิไอคอนกรุ๊ป ผ่านโซเชียลมีเดีย ส่งผลโดยรวมต่อพระพุทธศาสนาในวงกว้าง สร้างความเสื่อมเสียต่อวงการสงฆ์ จากที่ตนได้มาร่วมงานกฐินในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ต้องยอมรับว่าในเทศกาลนี้เป็นช่วงที่ออกพรรษา ญาติโยมต่างมุ่งมั่นที่จะร่วมทำบุญกฐินกันในวัดที่ตนเลื่อมใสศรัทธา ปรากฏว่าจากที่ตนได้ซักถามกับพุทธศาสนิกชนยอมรับว่ากระแสข่าวนี้ ส่งผลต่อศรัทธาอย่างมากกับชาวพุทธโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

ดร.ณพลเดช กล่าวต่อไปว่า ตนได้หารือกับสำนักพุทธ จ.เชียงราย และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ถึงประเด็นนี้ต้องยอมรับว่ากระทบกับวงการสงฆ์โดยรวม ทุกฝ่ายอยากให้เรื่องเงียบให้เร็วที่สุด เพราะพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกมากได้รับผลกระทบไปด้วย สิ่งนี้กระทบต่อวงการสงฆ์ในระดับโลกด้วยมีการเผยแพร่ในระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้เหมือนกระแสสังคมโดยเฉพาะผู้หิวแสง ได้ปรากฏตัวทางโซเชียลโพสต์ข้อความทั้งคลิปและข้อความ รวมถึงร้องเรียนหน่วยงานรัฐต่อพระสงฆ์ท่านนี้ ตนอยากจะให้หยุดกันนิ่งสักนิดในฐานะเราเป็นคนไทยด้วยกัน อยากจะให้พิจารณาใน 3 ข้อบูรพคณาจารย์ในอดีตท่านสอนคือ 1.กรรมในการทำลายสงฆ์  2.กรรมในการทำลายพุทธศาสนา 3.กฎหมายที่อาจจะกลับไปลงโทษหากโพสต์โดยไม่รู้ข้อกฎหมาย

ประการที่ 1 ตนขอชื่นชม คุณหนุ่ม กรรชัย ที่เจตนาดี ไม่ฟ้องร้องพระสงฆ์พร้อมยุติและใส่บาตรให้ท่านเจ้าคุณ อย่างไรก็ตามหากใครที่เจตนาไม่ดีต่อพระสงฆ์ หากการกระทำส่งผลให้สงฆ์แตกแยก ก็อาจจะเป็นอนันตริยกรรม คือ กรรมหนัก 1 ใน 5 กรรม ซึ่งเป็นการทำ สังฆเภท คือ ทำให้สงฆ์แตกกันเป็นการทำลายสงฆ์ มีนรกอเวจีเป็นที่ไป

ประการที่ 2 หากศึกษาพระไตรปิฎก ในชาดกทำให้พระศาสนาในสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะเสื่อมถอย ต้องไปเกิดในอเวจีมหานรถ พอเกิดมาเป็นปลาก็ปากเหม็นมาก

ประการที่ 3 ตนอยากให้พิจารณาในข้อกฎหมายที่ได้บัญญัติ เช่น กรณีที่คนโพสต์มากที่สุด คือภาพท่าน ว. นั่งสมาธิบนหิมะ และมีถ้อยคำประกอบ หากมีการโพสต์อันเป็นการกระทบกับวัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพทางศาสนา ก็อาจผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 206 จำคุก 1-7 ปี หรือ ปรับ 2หมื่น-1แสนบาท หรือหาก ท่าน ว. ปฏิบัติธรรมจริง มีการร้องเรียนว่าทำให้เกิดความวุ่นวายในขณะทำพิธีกรรม ก็จะมีโทษคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท ตามกฎหมายอาญามาตรา 207 และหากโพสต์และมีข้อความที่อาจเป็นความเท็จหรือไม่เป็นความจริง ก็จะผิดตามมาตรา 236 ฐานหมิ่นประมาท รวมทั้งอาจผิดตามมาตรา 393 ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ที่สำคัญคือพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งหากตรวจสอบว่ามีการบิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งตรงนี้หากพิสูจน์ได้ว่าประชาชนได้เกิดความเสียหายซึ่งอาจเกิดจากเสื่อมศรัทธา หรือแตกแยก หรือประการใดๆ ก็อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท อย่างไรก็ตามตนได้ประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาในเบื้องต้น จากอำนาจหน้าที่หากพบเห็นการโพสต์ที่อาจจะเป็นการทำลายและส่งผลต่อวงการพุทธศาสนาดังกล่าว ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้โพสต์และคอมเม้นต์ เพื่อเอาผิดได้

ดร.ณพลเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนในฐานะชาวพุทธ เห็นความลำบากและการเอารัดเอาเปรียบ จากบริษัทที่อาจกระทำให้เกิดการค้าขายอันอาจเข้าข่ายหลอกลวง แต่ทั้งนี้ตนเห็นว่าควรเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอาการศาสนา มาเกี่ยวข้องเลย อันจะส่งผลเสียต่อสถาบันหลักของชาติ ซึ่งเป็นการกระทำอันอาจขัดรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพลง: น้องหอมแดงลูกฮิปโปศรีสะเกษ

  ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌ ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno    คลิกฟังเพลงที่นี่ (Verse 1) เธอเกิดที่สวนสัตว์น่ารัก ในศรีสะเกษ ด้วยเสียงโหวตที่มาจากใจ ลู...