ฝ่ายค้านเดินหน้าเต็มสูบ! ปมถวายสัตย์ของ'บิ๊กตู่' เตรียมพร้อมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ 'นคร' ระอาเหมือน'ตักน้ำรดหัวตอ'ไม่ฟังคำแนะนำ
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านระบุถึงการทำงานของฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยในสัปดาห์นี้ว่า วันนี้มีการประชุม ของวิปฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยจะเตรียมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้โดย วาระที่คาดว่าจะใช้เวลานานคือการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ทั้งหมดมี 192 ข้อ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอภิปรายพอสมควร นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ,คณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้าน และเรื่องที่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนประเด็นในการอภิปรายหรือตั้งกระทู้ถามนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรอให้ที่ประชุมฝ่ายค้านสรุป แต่หลักๆ ฝ่ายค้านจะสอบถามเรื่องการถวายสัตย์ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนครีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากค้างมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเเพทย์ชลน่าน มองว่า ท่าที่ดังกล่าวอาจทำให้ การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยากขึ้นแต่เป้าหมายสูงสุดของฝ่ายค้านคือการผลักดันตั้ง สสร.และ เปิดทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม มาตรา256 ให้ได้ ยืนยันสิ่งที่ทำนั้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน และการรณรงค์คือสิ่งที่ต้องทำ ส่วนความเป็นไปได้ ก็จะพยามขับเคลื่อน โดยเชื่อว่าหากผ่านขั้นตอนการแก้ไขในมาตรา 256 ได้แล้ว การรณรงค์เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญในขั้นตอนอื่นๆจะราบรื่นขึ้น
'นคร'ระอาเหมือน'ตักน้ำรดหัวตอ'
นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การไม่แสดงความรับผิดชอบของพล.อ.ประยุทธ์กรณีนำ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน รัฐบาลจะต้องไม่เข้าบริหารราชการแผ่นดินมาตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าเป็นรัฐบาลสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัย ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญรับรองความสมบูรณ์ให้พล.อประยุทธ์ ก็ย่อมกระทบกระเทือน การบริหารราชการแผ่นดินก็จะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ความเสียหาย ความผิดทั้งของพล.อ.ประยุทธ์ ของคณะรัฐมนตรี และบรรดาข้าราชการที่ปฎิบัติตามคำสั่ง จะไม่ชอบด้วยกฏหมาย
"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศ ว่า ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวและขอโทษรัฐมนตรี แต่ไม่เคยขอโทษต่อประชาชนใกล้จะครบหนึ่งเดือนแล้วยังเพิกเฉย ไม่แสดงความรับผิดชอบ มีพฤติกรรมไม่สะทกสะท้าน ไม่ดำเนินการใดๆ ที่ควรจะต้องทำ ตามคำแนะนำจากหลายฝ่ายที่ปรารถนาดีให้ลาออก ก็ไม่ฟัง ไม่ยอมรับ ไม่สนใจว่าประชาชนจะเดือดร้อน บ้านเมืองจะเสียหายอย่างไร แสดงตัวตนลุอำนาจ จนเคยตัว ทำตัวใหญ่กว่าทุกสถาบัน ไม่ต่างไปจากสำนวนสุภาษิตไทยที่ว่า ตักน้ำรดหัวตอ คนตักน้ำก็จะเหนื่อยเปล่า" นายนคร กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น