สมเด็จพระสังฆราชประทานพระโอวาท ครม. เน้นให้ 'สติสัมปชัญญะ' ประกอบการทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติและประชาชน 'บิ๊กตู่' เผยได้ขอพรให้ประเทศชาติและคนไทย บอกเป็นธรรมเนียมรบ.ชุดก่อนก็ทำ สั่งดูแลสถานที่พุทธมณฑลให้ดี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 ส.ค.2562 ที่พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สักการะพระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ พระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน โดยมี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยถึงการเข้าเฝ้าพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกว่า เป็นธรรมเนียมที่นำคณะรัฐมนตรีมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช และมากราบคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้ว รัฐบาลชุดก่อนก็ทำเช่นนี้
“ผมได้ขอพรจากท่าน เพื่อให้อวยพรให้กับประเทศไทย ประเทศชาติ และคนไทยไม่ว่าจะใคร นายกฯ ก็ต้องทำให้กับคนไทยทุกคน คณะรัฐมนตรีก็เหมือนกัน เป็นกำลังใจให้กันและกันก็ดีจะตาย”
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส แม้อากาศจะค่อนข้างร้อน สมัยเด็กๆ ตนก็อยู่กลางแดดทุกวัน ตากแดดตั้งแต่เช้าจนเย็น แดดแค่นี้สบาย
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินชมทัศนียภาพโดยรอบบริเวณองค์พระประธาน พร้อมกล่าวว่า สถานที่สะอาด สวยงาม ถือว่ายังใช้ได้ อย่างไรก็ตามการดูแลสถานที่สำคัญๆ ที่จำลองมาไว้ ณ ที่แห่งนี้ก็ต้องดูแลให้ดี ต้นไม้อย่าปล่อยให้กิ่งก้านตกมาถึงดิน หรือปล่อยให้บดบังมิดชิดและเป็นอันตราย ต้นไม้ต้องอยู่ในระดับสายตา มองเห็นได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขอให้ริดกิ่งออกเท่านั้นแต่อย่าไปตัด รวมไปถึงสวนสาธารณะอื่นๆ ก็ขออย่าให้มีที่อับสายตา
จากนั้นเวลา 14.05 น. นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ห้องประชุมมหาเถรสมาคม อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
เมื่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จถึงห้องประชุมเถรสมาคม นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทูลถวายเครื่องสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้พานธูปเทียนแพ ถวายพานดอกบัว ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรม
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระประทานพระโอวาทใจความสำคัญ ดังนี้ ฝ่ายบริหารย่อมมีหน้าที่สำคัญในการทำนุบำรุงบ้านเมืองไทยให้เป็นปรกติสุขร่มเย็นมีความมั่นคงปลอดภัยและเจริญก้าวหน้าในทุกด้านการกระทำ “หน้าที่” ตามตำแหน่งที่ดำรงอยู่ ย่อมต้องใช้ “อำนาจ”เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงาน จึงขอเน้นย้ำให้ท่านทั้งหลายจงมั่นฝึกอบรมตน ให้มีสติระลึกรู้เป็นเครื่องกำกับการกระทำ ทางกายและวาจาอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเหลิงอำนาจ หรือ หลงอำนาจ จนนำไปสู่การกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ว่า “สติสัมปชัญญะ” เป็นธรรมอันมีอุปการะมากเพราะฉะนั้นการทำงานในทุกระดับหากมีสติเป็นเครื่องระลึกมีสัมปชัญญะเป็นเครื่องรู้ตัว ให้สามารถเหนี่ยวรั้งจิตใจตนอยู่เสมอแล้ว ความผิดพลาดก็จะไม่เกิดขึ้น หรือหากมีความ ผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีก่อนจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงมากขึ้นจนเหนือการควบคุม ขอให้ทุกท่านจงมีสติสำนึกรู้ไว้เสมอว่า ความชอบด้วยกฎหมายและความชอบธรรมแห่งฐานะที่ดำรงอยู่ คือ อำนาจที่แท้จริง อำนาจไม่อาจเกิดได้โดยชอบหากไม่มีรากฐานจากคุณธรรม จึงขอให้ทุกท่านมั่นคงในคุณธรรม จริยธรรมของความเป็นผู้ใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสีย สละ อดทน และพากเพียร ในการประกอบกรณียกิจเพื่อจรรโลงสถาบันหลักของชาติ และประชาชนให้รุ่งเรืองไพบูลย์สืบไป
จากนั้นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และกรรมการเถรสมาคม ทรงฉายพระรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เสร็จภารกิจนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น