วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562

"สมศักดิ์"เร่งแก้ส่งยาผ่านไปรษณีย์-เอกชน ชี้ทำงานร่วมเพื่อนบ้านได้ผล



วันที่ 29 สิงหาคม 2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการปราบปรามยาเสพติดว่า นโยบายการปราบปรามยาเสพติดถือเป็นหนึ่งในเรื่องด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งทำให้สำเร็จโดยเร็ว ซึ่งนอกจากการปราบปราบแล้ว การป้องกันและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องสอดคล้องดำเนินการควบคู่กันไปซึ่งต้องทำงานร่วมกันในหลายกระทรวง ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมนั้น เรามีหน่วยงานหลักอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่มีหน้าที่สำคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยเฉพาะประเทศในลุ่มน้ำโขง ทั้ง สปป.ลาว และเมียนมาร์ ที่เราได้ร่วมมือกันสกัดกั้นและทำลายแหล่งผลิต ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลออกมาน่ายินดี ส่วนการจัดการภายในประเทศ เราได้สั่งให้ทุกพื้นที่คุมเข้มและทำงานบูรณาการร่วมกันในหลายหน่วยงาน นอกจากนี้เรายังมี กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่เป็นสิ่งยึดโยง ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ทุกคนในหมู่บ้านช่วยกันไม่ให้ลูกหลานไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งถือเป็นเกราะชั้นแรกในการป้องกันปัญหายาเสพติด

 เมื่อถามถึงการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุที่ส่งทางไปรษณีย์และบริการขนส่งของเอกชน จะมีวิธีการแก้ปัญหานี้อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญประเด็นหนึ่ง การส่งของโดยไปรษณีย์มีบริการขนส่งกว่า 2 ล้านรายการต่อวัน และบริษัทข่นส่งพัสดุของเอกชนมีเป็นหมื่นสาขา อาจจะมีบางรายการที่หลุดรอดไปบ้าง ซึ่งเรายังไม่สามารถบังคับให้บริษัทขนส่งเอกชน ติดตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์ได้ครบทุกสาขา เพราะมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เครื่องหนึ่งหลายล้านบาท อาจจะทำให้ค่าขนส่งแพงขึ้นกระทบต่อผู้บริการ ดังนั้นเราอาจจะต้องใช้มาตราการอื่นช่วยเสริม เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดที่บรรจุพัสดุและส่ง หรือให้บรรจุพัสดุต่อหน้าพนักงานส่ง ผู้ฝากส่งจะต้องแสดงบัตรประชาชนตัวจริงและลงทะเบียนพัสดุ นอกจากนี้ยังต้องมีบทลงโทษต่อผู้ให้บริการ หากพบเหตุการส่งยาเสพติดผ่านทางบริการ โดยเริ่มตั้งแต่บทลงโทษสถานเบา เช่น การตักเตือน การปรับเงิน หรือลงโทษสถานหนัก เช่น ให้หยุดพักการให้บริการเป็นเวลาหลายวันหรือเดือน หรือหนักสุดคือต้องปิดกิจการ

 นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราได้มีการเตือนเอกชนที่ขนส่งและสั่งให้ปรับปรุงไปแล้ว 14 รายด้วยกัน โดยในส่วนนนี้อาจจะต้องไปปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆให้ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ในส่วนของงานหลักอย่างการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทางกระทรวงและรัฐบาลกำลังศึกษาว่ากฎหมายต่างๆที่เกี่ยวกับยาเสพติดนั้น บทลงโทษต่างๆ ของบ้านเราเหมาะสมและทันสมัยกับสถานการณ์ในปัจจุบันแล้วหรือไม่ อย่างไร อาจจะต้องมีการปรับปรุงเนื้อหา หรือบทลงโทษให้เหมาะสม รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่จะสามารถช่วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รัฐบาลขับเคลื่อนการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเวลเนส ดัน "นวดไทย-อาหารไทย-สมุนไพรไทย" เป็น Soft Power

วันที่ 20 เมษายน 2567 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐม...