วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2565 ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากพระภิกษุจำนวนมาก ที่โทรเข้ามาตรวจสอบเรื่องการ “อนุมัติเลื่อนสมณศักดิ์ เพียงแค่โอนเงินจำนวน 50,000 บาท หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังพระเจ้าคณะชั้นปกครอง อย่างเช่นที่เชียงใหม่ รวมถึงพระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 กรรมการมหาเถรสมาคม ได้รับคำตอบว่าไม่ได้เป็นความจริง จึงได้แจ้งไปยังกลุ่มพระภิกษุที่ได้รับการร้องเรียนมาว่าเป็นการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากกรณีดังกล่าวที่มีการร้องเรียนจากพระภิกษุสงฆ์ว่า กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ มีความรู้และลงลึกว่าพระภิกษุที่กำลังสื่อสารนั้นมีตำแหน่งอะไรในชั้นปกครอง และรู้ถึงขนาดพระราชาคณะชื่ออะไร ตำแหน่งที่จะเลื่อนลำดับชั้น มีเทคนิคการเลื่อนจากระดับชั้นพระครู สามารถข้ามไปดำรงตำแหน่งชั้นพระราชาคณะ ที่ชั้นราช ได้ แก๊งคอลเซนเตอร์ยังมีเทคนิคหว่านล้อมต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการให้ไปบอกบุญญาติโยม ทั้งนี้มีการยื่นคำขาดว่าถ้าไม่รับสมณศักดิ์ ก็จะตัดชื่อออกไปจากระบบทันที ตนจึงขอกราบนมัสการพระคุณเจ้าที่อาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าโทรมาเรื่องการเลื่อนสมณศักดิ์ และพูดถึงเรื่องเงิน ให้ตัดสายทันที
ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯพุทธศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบาดไม่เพียงประเทศไทยเท่านั้น เท่าที่สืบทราบมามีการอ้างว่ามีนายทุนจากต่างประเทศ กว้านซื้อข้อมูลส่วนตัวคนไทย เป็นชื่อ เบอร์โทร ที่ไปลงข้อมูลไว้ตามหน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชนต่าง ๆ ราคาซื้อมีราคาเบอร์ละ 5-10 บาท และจ้างคนไทยไปรวมกันตามตึกและจัดระบบ Call Center โดยใช้ระบบ Robot เพื่อเชื่อมและตรวจสอบความถูกต้องไปยังหมายเลขปลายทาง สำหรับประเทศไทย Robot จะโทรนำหน้าด้วย 08 และ 02 เพื่อสร้างความมั่นใจ
สำหรับในหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมายฉบับใหม่ที่มีการควบคุมเข้มงวดยิ่งขึ้นในช่วงระยะหลังนี้ เพื่อป้องกัน Spam & Scam Report โดยบริษัท TRUECALLER แต่ก็ยังพบว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ถูกหลอกเมื่อปีที่แล้วยังเพิ่มขึ้นถึง 59.5 ล้านคน รวมความเสียหายเฉลี่ย 502 ดอลลาร์สหรัฐ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 29.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.9 แสนล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในรอบ 7 ปี ทั้งนี้ FCC (Federal Communication Commission) ของสหรัฐได้ใช้วิธีการกำหนดให้บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องใช้โปรโตคอลยืนยันตัวตนผู้โทรตามมาตรฐานที่ชื่อว่า STIR/SHAKEN เพื่อให้ปลายสายได้เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่แท้จริงของต้นทางเพื่อแก้ปัญหาใช้โทรศัพท์ข้ามโลกผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ VoIP (Voice over Internet Protocol) ถึงพระแล้ว!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น