เมื่อวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ในฐานะกรรมการสรรหาอธิการบดี และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ได้กล่าวว่า ตามที่พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีจะหมดวาระในการดำรงตำแหน่งอธิการบดี( 4ปี )ในเดือนสิงหาคม นี้ และตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี พ.ศ. 2541 ให้มีการดำเนินการสรรหาอธิการบดีเพื่อที่สมเด็จพระสังฆราช จะได้ทรงแต่งตั้งก่อนที่อธิการบดีจะหมดวาระ
ในการนี้มหาวิทยาลัยโดยสภามหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีประกอบด้วย พระพรหมบัณฑิต ประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย พระพรหมโมลี พระสุวรรณเมธาภรณ์ พระเเมธีธรรมาจารย์ พระโสภณวชิราภรณ์ ศ.(พิเศษ)จำนงค์ ทองประเสริฐ รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม คณะกรรมการสรรหาได้ประชุมเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 เวลา 14.30 ณ ห้องประชุม 205 ตึกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม.
เบื้องต้นคณะกรรมการสรรหาได้ให้ที่ประชุมเสนอชื่อพระเถระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา ตามข้อบังคับกำหนดไว้ว่า 1.เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้าใจทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี 2.เป็นผู้ที่มีผลงานทางวิชาการหรือประสบการณ์ด้านการบริหารที่ประจักษ์ชัดว่ามีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี 3.เป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาคมในมหาวิทยาลัย 4.เป็นผู้ที่สามารถอุทิศเวลาให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อไปว่าที่ประชุมได้เสนออธิการบดี และรองอธิการบดีที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ดังกล่าวเพื่อประกอบการพิจารณา ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วจึงมีมติด้วยเสียงข้างมากให้เสนอ พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี เป็นอธิการบดีต่ออีกสมัย ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไปก็คือการเสนอชื่อเพื่อให้สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยรับรองและเห็นชอบเพื่อจะได้เสนอขอพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งต่อไป
วันนี้ (29 มิ.ย.) สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ประชุมมีมติรับรองและเห็นชอบให้พระธรรมวัชรบัณฑิต ดำรงตำแหน่งอธิการบดีต่ออีกหนึ่งวาระ จากนี้ไปสำนักงานเลขานุการสภามหาวิทยาลัยจะได้เสนอขอรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชเพื่อลงพระนามแต่งตั้งต่อไป
"การดำรงตำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นไม่มีข้อกำหนดเรื่องวาระในการดำรงตำแหน่งอธิการบดี เพราะพระเถระที่เป็นผู้บริหารระดับสูงนี้หาได้ยาก กฎหมายจึงเปิดกว้างให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้หลายวาระ" พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวในตอนท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น