ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
นชีรติสูตร: ความโลภทำลายธรรม
(Verse 1)
รูปกายนี้ย่อมทรุดโทรมไปตามเวลา
ไม่ว่าผู้ใดจะหลีกพ้นไปไม่ได้
แต่สิ่งที่เหลือไว้คือความดีในใจ
ที่ไม่สิ้นไปตามวัยคืนวัน
(Pre-Chorus)
ราคะนำทางเราไปสู่ทางผิด
ความโลภทำลายธรรมในตัวเรา
แต่เมื่อเราฝึกจิต ฝึกใจให้แกร่ง
เราก็พ้นจากมลทินที่คอยเกาะเรา
(Chorus)
ฝึกตน ฝึกใจในความดี
ไม่หลงไปในกิเลสที่ลวงตา
ตบะและพรหมจรรย์ชำระล้างใจ
ให้จิตบริสุทธิ์ในโลกนี้
หลีกเลี่ยงช่องแห่งความเกียจคร้าน
ที่จิตใจเราไม่อาจตั้งมั่นอยู่ได้
(Verse 2)
ทุกวันคืนพาอายุเราผ่านไป
วัยของเราลดน้อยลงเรื่อยไป
แต่หากเราตั้งมั่นในธรรมและศรัทธา
ไม่ต้องกลัวสิ่งใดในหนทาง
(Pre-Chorus)
ราคะนำทางเราไปสู่ทางผิด
ความโลภทำลายธรรมในตัวเรา
แต่เมื่อเราฝึกจิต ฝึกใจให้แกร่ง
เราก็พ้นจากมลทินที่คอยเกาะเรา
(Chorus)
ฝึกตน ฝึกใจในความดี
ไม่หลงไปในกิเลสที่ลวงตา
ตบะและพรหมจรรย์ชำระล้างใจ
ให้จิตบริสุทธิ์ในโลกนี้
หลีกเลี่ยงช่องแห่งความเกียจคร้าน
ที่จิตใจเราไม่อาจตั้งมั่นอยู่ได้
(Bridge)
มี 6 ช่องที่เราต้องระวัง
เกียจคร้าน ประมาท ไม่หมั่นเพียร
ต้องหลีกให้ไกล พัฒนาจิตให้บริสุทธิ์
เพื่อไม่ให้ใจเราต้องติดอยู่ในนั้น
(Chorus)
ฝึกตน ฝึกใจในความดี
ไม่หลงไปในกิเลสที่ลวงตา
ตบะและพรหมจรรย์ชำระล้างใจ
ให้จิตบริสุทธิ์ในโลกนี้
หลีกเลี่ยงช่องแห่งความเกียจคร้าน
ที่จิตใจเราไม่อาจตั้งมั่นอยู่ได้
(Outro)
ฝึกตน ฝึกใจให้มั่นคง
เราจะพบความสงบในทุกหนทาง
ไม่ต้องกลัวความทุกข์ในวันพรุ่งนี้
เพราะเราได้ฝึกใจให้พร้อมทุกอย่าง
นชีรติสูตรที่ ๖
[๒๐๙] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมทรุดโทรม อะไรไม่ทรุดโทรม อะไรหนอ
ท่านเรียกว่าทางผิด อะไรหนอเป็นอันตรายแห่งธรรม อะไร
หนอสิ้นไปตามคืนและวัน อะไรหนอเป็นมลทินของ
พรหมจรรย์ อะไรไม่ใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ในโลก
มีช่องกี่ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้ ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้-
มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จะรู้ความข้อนั้นได้ ฯ
[๒๑๐] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรม นามและโคตรย่อมไม่
ทรุดโทรม ราคะท่านเรียกว่าทางผิด ความโลภเป็นอันตราย
ของธรรม วัยสิ้นไปตามคืนและวัน หญิงเป็นมลทินของ
พรหมจรรย์ หมู่สัตว์นี้ย่อมข้องอยู่ในหญิงนี้ ตบะและ
พรหมจรรย์ทั้งสองนั้น มิใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ในโลก
มีช่องอยู่ ๖ ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้ คือความเกียจคร้าน ๑ ความ
ประมาท ๑ ความไม่หมั่น ๑ ความไม่สำรวม ๑ ความมัก
หลับ ๑ ความอ้างเลศไม่ทำงาน ๑ พึงเว้นช่องทั้ง ๖ เหล่านั้น
เสียโดยประการทั้งปวงเถิด ฯ
ตามลิ้งค์นี้ https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=1309
สาระสำคัญของ นชีรติสูตร
นชีรติสูตร ที่ 6 เป็นบทสนทนาระหว่างเทวดาและพระพุทธเจ้า โดยเทวดาได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ทรุดโทรม สิ่งที่ไม่ทรุดโทรม และสิ่งที่เป็นอันตรายของธรรม พระพุทธเจ้าได้ตอบคำถามเหล่านี้ด้วยการสอนธรรมะอย่างชัดเจน โดยสรุปเนื้อหาสำคัญมีดังนี้:
สิ่งที่ทรุดโทรม: รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
สิ่งที่ไม่ทรุดโทรม: นามและโคตร ไม่ทรุดโทรม (นามธรรม เช่น ความดี ชื่อเสียงในด้านดี ยังคงอยู่แม้รูปร่างจะเสื่อมไป)
สิ่งที่เรียกว่าทางผิด: ราคะ (ความหลงใหลในกิเลส) เป็นทางผิด
สิ่งที่เป็นอันตรายของธรรม: ความโลภเป็นอันตรายของธรรม (เพราะความโลภเป็นตัวนำไปสู่การทำผิดศีลธรรม)
สิ่งที่สิ้นไปตามคืนและวัน: วัยของคนย่อมสิ้นไปตามวันและคืน
มลทินของพรหมจรรย์: หญิง (ในที่นี้หมายถึงการยึดติดในกิเลสทางเพศ) เป็นมลทินของพรหมจรรย์
เครื่องชำระล้างที่ไม่ใช่น้ำ: ตบะ (การฝึกความอดทน) และพรหมจรรย์ (การรักษาศีลทางกายและใจ) เป็นเครื่องชำระล้างที่ไม่ใช่น้ำ
ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้: พระพุทธเจ้าตรัสว่ามี 6 ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้ ได้แก่ ความเกียจคร้าน, ความประมาท, ความไม่หมั่น, ความไม่สำรวม, ความมักหลับ, และการอ้างเหตุผลเลี่ยงงาน
หลักธรรมจากนชีรติสูตรในชีวิตประจำวัน
การรักษาจิตใจและการควบคุมตัวเอง: ควรหลีกเลี่ยงความเกียจคร้าน ความประมาท และความไม่หมั่นเพียร เพราะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตนเองในทางธรรม
ความสำคัญของการไม่ยึดติดในรูปภายนอก: รูปร่างภายนอกทรุดโทรมได้ตามกาลเวลา แต่ความดีและคุณธรรมจะคงอยู่เสมอ
การละกิเลส: ควรละทิ้งความหลงในกิเลสทางเพศและความโลภ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์และความเสียหายในชีวิต
การฝึกตนด้วยตบะและพรหมจรรย์: ความอดทนและการควบคุมตัวเองเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาชีวิตและจิตใจให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น