"อนุทิน" เปิดมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง โดยสถาบันพระปกเกล้า ชื่นชมกิจกรรมได้ส่งเสริมภาคพลเมืองพร้อมอนุรักษ์พุทธศิลป์ไทย เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ทำดี
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (6 ต.ค. 67) เวลา 10.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง เครื่องรางของขลังและเหรียญพระคณาจารย์ ทั่วประเทศ จัดโดย สถาบันพระปกเกล้า ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พลเอก นักรบ บุญบัวทอง ประธานดำเนินงานฯ นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสารอด กรุงเทพฯ คณะผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า คณะกรรมการบริหารสมาคมพระเครื่อง พระบูชาไทย ตลอดจน แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ร่วมในงาน
นายอนุทิน กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ถือเป็นเสาหลักของภูมิปัญญาทางการเมืองของประเทศไทย จึงเป็นเรื่องน่าชื่นชม ที่ทางสถาบันฯ ได้จัดกิจกรรม "มหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง" ขึ้น เพื่อหารายได้สนับสนุนโครงการส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง ในฐานะที่ตนเป็นนักการเมือง ทำงานการเมืองมาเกินครึ่งของชีวิตการทำงานแล้ว ก็ดีใจที่การเมืองภาคพลเมืองจะได้รับการสนับสนุน เพราะนั่นหมายถึง การมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพของประชาชนต่อไป อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาทางการเมืองและการบริหารประเทศอย่างยั่งยืน
"ขอขอบคุณทุกท่านและทุกหน่วยงานที่มีส่วนในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ ตลอดจนขอขอบคุณ คณะผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า และ คุณต้อย พิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รวมถึงสหายพระเครื่องพระบูชาที่มีความคุ้นเคยมาตลอดหลายสิบปี การที่ทุกท่านมาร่วมงานมหกรรมประกวดพระเครื่องฯ ในครั้งนี้ ขอยืนยันว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะไม่มีพระเครื่ององค์ใดที่เป็นแชมป์ตลอดไป แต่อยู่ที่ใจของเรา หากเราคิดว่าพระองค์ใดถูกใจหรือถูกโฉลกกับเรา พระองค์นั้นคือองค์ที่สวยที่สุด มีมูลค่ามากที่สุด หรืออาจจะประเมินค่าไม่ได้" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนใช้โอกาสนี้ในการชื่นชมพุทธศิลป์ ศิลปะของไทย ที่ล้วนแล้วแต่มีคุณค่า มีความเป็นสิริมงคล และได้ร่วมกันถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา อันเป็นที่พึ่งทางใจจากประสบการณ์ของตน หลายครั้งความศรัทธา การเคารพบูชาในพระพุทธคุณ ทำให้สิ่งดี ๆ ทั้งหลายที่พึงปรารถนาเกิดขึ้นกับตัวเรา ไม่ว่าไปที่ไหนก็นำติดตัวไปทุกที่ ต้องมีวัตถุมงคลติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะการมีพระเครื่องอยู่ที่คอ อย่างน้อยจะทำให้เรายับยั้งในการทำสิ่งที่สุ่มเสี่ยงหรือปฏิบัติสิ่งที่ไม่ดี และหากเรามีจิตสำนึกที่ดีในการเคารพบูชาท่าน สิ่งดี ๆ เหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราเสมอ เกิดความมุ่งมั่น นำไปสู่การทำสิ่งที่ประสบความสำเร็จ
ภายหลังจากพิธีเปิดงาน รมว.มหาดไทย ได้นำคณะและแขกในงาน เดินเยี่ยมชมบูธการจัดแสดงพระเครื่องพระบูชาที่มาจากทั่วประเทศ พร้อมเดินกล่าวทักทายกับผู้ที่มาร่วมรับจัดแสดงและผู้ชมที่สนใจภายในงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น