วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - ทุติยโกกาลิกสูตร : พระโกกาลิกภิกษุเฝ้าพระพุทธเจ้ากล่าวหา พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะมีความปรารถนาลามก ตายตหนรก

ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  


พรระพุทธเจ้าเตือนสามครั้งไม่ฟัง พระโกกาลิกภิกษุลุกจากอาสนะหลีกไปแล้วไม่นาน ต่อมทั้งหลายขนาดเมล็ด

พรรณผักกาดได้ผุดขึ้นทั่วกายของเธอ ต่อมเหล่านั้นได้โตขึ้นเป็นขนาดถั่วเขียว

แล้วก็โตขึ้นเป็นขนาดถั่วดำ แล้วก็โตขึ้นเป็นขนาดเมล็ดพุดซา แล้วก็โตขึ้นเป็น

ขนาดลูกพุดซา แล้วก็โตขึ้นเป็นขนาดผลมะขามป้อม แล้วก็โตขึ้นเป็นขนาด

ผลมะตูมอ่อน แล้วก็โตขึ้นเป็นขนาดผลมะตูม ต่อจากนั้นก็แตกทั่ว แล้วหนอง

และเลือดหลั่งไหลออกแล้ว ฯ

             ครั้งนั้นแล พระโกกาลิกภิกษุได้กระทำกาละแล้ว เพราะอาพาธอันนั้น

เอง ครั้นกระทำกาละแล้วก็เข้าถึงปทุมนรก  ท้าวสหัมบดีพรหม เมื่อราตรีปฐมยามล่วงแล้ว

มีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่-

*ประทับ  กล่าวถึง ปทุมนรก เป็นส่วนหนึ่งแห่งมหานรกอเวจี ผู้ที่เกิดในมหานรกอเวจี

       พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ดูกรภิกษุ ประมาณแห่งอายุในปทุมนรก

เปรียบเหมือนเกวียนบรรทุกงาแห่งชาวโกศลซึ่งบรรทุกงาได้ ๒๐ ขารี ๑-

บุรุษพึงเก็บงาขึ้นจากเกวียนนั้นโดยล่วงร้อยปีๆ ต่อเมล็ดหนึ่งๆ ฯ

@๑. ๒๐ ขารีเท่า ๑ เกวียน คือ ๔ แล่งโดยแล่งที่เป็นของชาวมคธ เป็นหนึ่งแล่งใน

@แคว้นโกศล ๔ แล่งโดยแล่งนั้นเป็นหนึ่งอาฬหก ๔ อาฬหกเป็นหนึ่งทะนาน ๔ ทะนาน

@เป็นหนึ่งมาฌิกา ๔ มานิกาเป็นหนึ่งขารี ๒๐ ขารีเป็นหนึ่งเกวียน

             "ดูกรภิกษุ เกวียนบรรทุกงาแห่งชาวโกศลซึ่งบรรทุกงาได้ ๒๐ ขารีนั้น

พึงถึงความสิ้นไปหมดไป เพราะความเพียรนี้เร็วกว่า ส่วนอัพพุทนรกหนึ่งยังไม่

ถึงความสิ้นหมดไปเลย" ฯ

             "ดูกรภิกษุ ๒๐ อัพพุทนรกเป็นหนึ่งนิรัพพุทนรก ๒๐ นิรัพพุทนรกเป็น

หนึ่งอพพนรก ๒๐ อพพนรกเป็นหนึ่งอฏฏนรก ดูกรภิกษุ ๒๐ อฏฏนรกเป็น

หนึ่งอหหนรก ๒๐ อหหนรกเป็นหนึ่งกุมุทนรก ๒๐ กุมุทนรกเป็นหนึ่งโสคันธิก

นรก ดูกรภิกษุ ๒๐ โสคันธิกนรกเป็นหนึ่งอุปปลกนรก ๒๐ อุปปลกนรกเป็น

หนึ่งปุณฑริกนรก ๒๐ ปุณฑริกนรกเป็นหนึ่งปทุมนรก ดูกรภิกษุ ก็ภิกษุโกกาลิก

เข้าถึงปทุมนรกแล้วแล เพราะจิตอาฆาตในภิกษุ ชื่อว่าสารีบุตรและโมคคัลลานะ" ฯ

             [๖๐๕] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้

จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

                          ชนพาลเมื่อกล่าวคำเป็นทุพภาษิตชื่อว่าย่อมตัดตนด้วยศัสตรา

                          ใดก็ศัสตรานั้นย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว ฯ

                          ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ หรือติผู้ที่ควรได้รับความสรรเสริญ

                          ผู้นั้นชื่อว่าสั่งสมโทษด้วยปาก เพราะโทษนั้น เขาย่อมไม่

                          ประสบความสุข ฯ

                          ความปราชัยด้วยทรัพย์ในเพราะการพนันทั้งหลาย พร้อมด้วย

                          สิ่งของๆ ตนทั้งหมดก็ดี พร้อมด้วยตนก็ดี ก็เป็นโทษเพียง

                          เล็กน้อยๆ ฯ

                          บุคคลใดทำใจให้ประทุษร้ายในท่านผู้ปฏิบัติดีทั้งหลาย ความ

                          ประทุษร้ายแห่งใจของบุคคลนั้นเป็นโทษใหญ่กว่า ฯ

                          บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้ เป็นผู้มักติเตียนพระอริยเจ้า

                          ย่อมเข้าถึงนรกซึ่งมีปริมาณ แห่งอายุถึงแสนสามสิบหกนิรัพ-

                          พุท กับห้าอัพพุทะ ฯ


https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=4844


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วิเคราห์ ทิฏฐิสังยุตต์ มูลปัณณาสก์ ทุติยเปยยาล - นวาตสูตร

  "วิเคราห์   ทิฏฐิสังยุตต์  มูลปัณณาสก์  ทุติยเปยยาล  -   นวาตสูตร  - เนวโหตินนโหติตถาคตสูตร - รูปีอัตตาสูตร - อรูปีอัตตาสูตร -รูปีจอร...