วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
2มส.รับรายงานคืบหน้าธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์
คณะทำงานขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเข้าพบ 2 มส.คือพระพรหมวชิรญาณและพระพรหมบัณฑิต รายงานความคืบหน้ารับข้อเสนอแนะโครงการธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ
วันที่ 15 พ.ย.2560 พระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ และนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานคณะขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ นำผู้แทนคณะทำงานโครงการธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เข้าถวายรายงานความก้าวหน้าโครงการฯ แก่พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม และประธานฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ที่วัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร และเข้าพบพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม และอธิการบดี มจร ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
พระราชวรมุนี ได้ถวายรายงานโดยสรุปว่า สืบเนื่องจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่7/2560 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 ได้มีมติมหาเถรสมาคมที่191/2560 เรื่อง พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะ โดยให้ดำเนินการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ โดยมอบหมายให้พระพรหมวชิรญาณและพระพรหมบัณฑิตเป็นที่ปรึกษา
การนี้เพื่อสนองมติดังกล่าวมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยพระพรหมบัณฑิต ได้มีคำสั่งมหาวิทยาลัยที่769/2560 แต่งตั้งคณะทำงานโครงการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ มีพระราชวรมุนีเป็นประธาน มีคณาจารย์ มจร ผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรภาคีที่เกี่ยวเป็นกรรมการ มีอาจารย์ เจ้าหน้าที่ มจร และ สช.เป็นคณะเลขานุการ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
การดำเนินงานได้มีการประชุมคณะทำงานวิชาการยกร่างธรรมนูญฯ จัดทำแผนกิจกรรมดำเนินงาน และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ 4 ภาคสงฆ์มหานิกาย และ 1 ภาคคณะสงฆ์ธรรมยุต โดยใช้หลักการ "ใช้ทางธรรมนำทางโลก" ที่พระพรหมบัณฑิตเมตตาให้หลักการไว้ ซึ่งคณะทำงานได้ยึดเป็นการสำคัญในการดำเนินงาน โดยมีเป้าประสงค์สำคัญ 3 ประการ คือ (1) พระสงฆ์กับการดูแลสุขภาพตนเองตามพระธรรมวินัย (2) ชุมชนและสังคมกับการดูแลอุปัฎฐากพระสงฆ์ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย (3) บทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะของชุมชนและสังคม รวมถึงการขับเคลื่อนธรรมนูญฯ สู่การปฏิบัติ
การจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ มีทั้งหมด 5 หมวด โดยสอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญข้างต้น รวมถึงการสนับสนุนของภาครัฐและองค์การภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องใน 4 ประเด็นสำคัญ คือ(1) สิทธิประโยชน์พื้นฐานในระบบหลักประกันสุขภาพ (2)ระบบการตรวจสุขภาพ (3) พระอาสาสมัครสาธารณสุขประจำวัด(พระอสว.) หรือพระคิลานุปัฎฐาก และ(4) กองทุนสุขภาพพระสงฆ์ระดับชาติ
ทั้งนี้ในการขับเคลื่อนธรรมนูญฯ ได้ยึดโยงกับโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ โดยคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ทั่วประเทศ สถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ และเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา โดยการสนับสนุนขององค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
ในการนี้พระเดชพระคุณทั้ง 2 ได้เมตตาให้คำแนะนำถึงแนวทางการประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ และแนวทางในการขับเคลื่อนธรรมนูญฯเพื่อความยั่งยืน นับเป็นสิริมงคลแก่คณะทำงานเป็นอย่างยิ่ง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสถานชีวาภิบาลต้นแบบ วัดพระบาทน้ำพุจังหวัดลพบุรี
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดและเยี่ยมชมการดำเนินงานส...
-
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เชิญชวนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศแสดงพ...
-
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09:00 น. ศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกา โดยพิพากษาว่า สืบเนื่องจากคดีนี้ พนักงานอัย...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น