ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ปรุงข้าวปายาสด้วยเนยใส ได้เห็นพระผู้มีพระภาคประทับยืน
เพื่อบิณฑบาต ครั้นแล้วได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
พราหมณ์ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยไตรวิชชา มีชาติฟังคัมภีร์เป็น
อันมาก ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ พราหมณ์นั้นควร
บริโภคปายาสนี้ ฯ
[๖๕๕] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
พราหมณ์ผู้กล่าวถ้อยคำแม้มาก เป็นผู้เน่าและเศร้าหมอง
ในภายใน อันความโกหกแวดล้อมแล้ว ย่อมไม่ชื่อว่าเป็น
พราหมณ์เพราะชาติ ผู้ใดรู้ปุพเพนิวาส และเห็นทั้งสวรรค์
ทั้งอบาย อนึ่ง ถึงความสิ้นไปแห่งชาติ เป็นมุนีผู้อยู่จบ
แล้วเพราะรู้ยิ่ง ผู้นั้นเป็นผู้มีไตรวิชชาด้วยวิชชาสามเหล่านี้ ชื่อ
ว่าเป็นพราหมณ์ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ พราหมณ์
นั้นควรบริโภคปายาสนี้ ฯ
อัคคิกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า พระโคดมผู้เจริญ ขอเชิญบริโภค
เถิด พระโคดมเป็นพราหมณ์ผู้เจริญ ฯ
[๖๕๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
เราไม่พึงบริโภคโภชนะที่ได้เพราะการขับกล่อม ดูกรพราหมณ์
นั่นไม่ใช่ธรรมของผู้พิจารณาอยู่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อม
รังเกียจโภชนะที่ได้เพราะการขับกล่อม ดูกรพราหมณ์ เมื่อ
ธรรมมีอยู่ ความเลี้ยงชีพนี้ก็ยังมี อนึ่ง ท่านจงบำรุงพระขีณาสพ
ทั้งสิ้นผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ผู้มีความคะนองอันสงบแล้ว
ด้วยข้าวน้ำอันอื่น เพราะว่าการบำรุงนั้น ย่อมเป็นเขตของผู้
มุ่งบุญ ฯ
[๖๕๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อัคคิกภารทวาชพราหมณ์
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้ง
นัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ก็แหละท่าน
พระภารทวาชได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล ฯ
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=5375
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น