วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระดำรัสเนื่องในวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ


วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2564 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ว่า



“อภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย จึงควรที่เราทั้งหลายผู้อาศัยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมเป็นที่พึ่ง จักพึงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญคุณงามความดี อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ผู้ทรงเปรียบประดุจบิดาแห่งอาณาประชาราษฎร


ราชธรรม ๑๐ ประการ ที่เรียกกันว่า “ทศพิธราชธรรม” อันเป็นธรรมะสำหรับพระราชาหรือผู้เป็นใหญ่นั้น แท้จริงแล้ว ย่อมเป็นสาธารณะสำหรับบุคคลทั่วไป คนไทยทุกคนควรจะได้ศึกษาใคร่ครวญโดยตลอด แล้วน้อมนำมาเป็นแบบอย่างทางประพฤติสำหรับตน


ธรรมะประการที่สองในทศพิธราชธรรม ซึ่งพึงหยิบยกมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนนั้นได้แก่ “ศีล” คือการรักษากายและวาจาให้เป็นปรกติ สงบเรียบร้อย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น ทรงมั่นคงในการรักษาพระราชจริยวัตรให้เป็นไปโดยปรกติ อ่อนโยน และงามสง่า ทรงเปี่ยมด้วยพระราชอัธยาศัยฝักใฝ่ไปในทางเอื้อเฟื้อเกื้อกูลประโยชน์สุขของปวงประชา ทรงอุดมด้วยพระราชวาจาสุภาษิต ประกอบด้วยข้อคิดคำสอน อันเป็นประทีปนำทางสังคมไทยให้ดำเนินไปสู่ความผาสุกสวัสดีทุกขณะ ทรงรักษาพระราชสัจจะไว้ได้อย่างมั่นคง ปราศจากมุสาวาท เหตุฉะนี้จึงทรงดำรงพระองค์อยู่อย่างสง่างามด้วย “ศีล” เป็นปรกติในการสั่งสมพระบารมีธรรม


เราทั้งหลายผู้เป็นไทย จึงควรเจริญรอยตามพระราชจริยาในรัชกาลที่ ๙ ด้วยการรักษาศีล มีเบญจศีลเป็นอย่างน้อย คอยควบคุมกายและวาจาให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ อย่าใช้ไปในทางบั่นทอน ทำลาย หรือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอเราทั้งหลายจงคิด พูด และทำเฉพาะกิจอันปราศจากโทษ ด้วยปณิธานมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะอำนวยผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองไทย สมพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ


ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันบำเพ็ญ จงสำเร็จเป็นทิพยสุขแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นเครื่องพิทักษ์รักษาคุ้มครองประชาชาติไทยให้ประสบความเกษมสุขสวัสดี มีกำลังพรั่งพร้อมที่จะทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้วัฒนาสถาพรสืบไป ตลอดกาลนาน เทอญ.”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วธ. จัดงานพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ ยกย่องชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรมต้นแบบที่มีความโดดเด่น 248 แห่ง

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒ...