เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ พระปราโมทย์ วาทโกวิโท,ดร. อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) เลขานุการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร ขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามแนวทางพุทธสันติวิธี เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยร่วมกับสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม มหาจุฬาจึงส่งบุคลากรคือ พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. เลขานุการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร เข้าร่วมฝึกอบรมพัฒนาและเข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับกลาง รุ่นที่ ๑๗ (ยธก.๑๗) ผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ ณ วิทยาลัยกิจการยุติธรรม สำนักงานกิจการยุติธรรม เบื้องต้นโดยนายชาตรี จันทร์เพ็ญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมได้ชี้แจงรายละเอียดการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับกลาง รุ่นที่ ๑๗ (ยธก.๑๗)
นายชาตรี กล่าวประเด็นสำคัญว่า สำนักงานกิจการยุติธรรมสังกัดกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานขนาดเล็ก ตามกฎกระทรวงมีกลุ่มต่างๆ แต่มีกลุ่มพัฒนาการฝึกอบรม กลุ่มนโยบายและพัฒนาทรัพยากรบุคคล และกลุ่มงานบริหารทั่วไป เพื่อให้งานยุติธรรมขับเคลื่อนไปด้วยด้วย มีการศึกษา วิจัย เกี่ยวกับงานยุติธรรม ทำแผนแม่บทยุติธรรมแห่งชาติปัจจุบันแผนที่ ๓ มีการประสานงานสารสนเทศเกี่ยวกับยุติธรรม การพัฒนาการฝึกอบรม สร้างความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนงานยุติธรรม ซึ่งการจัดฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ให้แก่บุคลากรระดับกลางในกระบวนการยุติธรรม เสริมสร้างการคิดวอิเคราะห์ การอภิปราย เกี่ยวกับสภาพปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไขเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรม และสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือของนักบริหารในกระบวนการยุติธรรม โดยนักบริหารระดับกลาง จำนวน ๕๒ ท่าน โดยเรียนรู้ ๓ หมวดหลัก ประกอบด้วย หลักการแนวคิดด้านกระบวนการยุติธรรม ประเด็นปัญหาและการพัฒนากระบวนการยุติธรรม และการพัฒนาสมรรถนะนักบริหาร โดยมีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์มุ่งภาวะผู้นำ และการทำงานเป็นทีม กิจกรรมถอดบทเรียน ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรม”
พิธีเปิดนางสาวสุพรรณี ประเสริฐทองกร รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของหลักสูตรการฝึกอบรมประเด็นสำคัญว่า การพัฒนาบุคลากรด้ายยุติธรรมถือว่ามีความสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมจึงจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรให้พร้อมในการทำงานอย่างสูงสุด จึงมีการจัดหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับกลาง รุ่นที่ ๑๗ (ยธก.๑๗) เป็นการฝึกอบรมแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มีภาควิชาการภาคกลุ่มปฏิบัติมีการถอดบทเรียน โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน ๕๒ ท่าน จำนวน ๔๖ หน่วยงานทั่วประเทศเพื่อการขับเคลื่อนเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการ
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ประธานในพิธีกล่าวเปิดการฝึกอบรมและบรรยายพิเศษหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ: มิติกระบวนการยุติธรรม” กล่าวประเด็นสำคัญว่า การพัฒนาคนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเริ่มจากการเรียนรู้จากวีดีทัศน์ในบทบาทของกรมต่างๆ ในการขับเคลื่อนงานยุติธรรมถือว่าเป็นการขับเคลื่อนงานยุติธรรมอย่างแท้จริง การจัดหลักสูตรเพื่อตอบโจทย์ประชาชนให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เน้นการบริการและประชาชนเป็นศูนย์กลางภาครัฐจึงต้องบริการประชาชนให้ดีที่สุด จึงต้องมองผังความเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์และแผนปฏิรูปประเทศของกระทรวงยุติธรรมประจำปี ๒๕๖๕ โดยแบ่งออกเป็นด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และด้านการปรับสมดุลพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ สิ่งสำคัญจะต้องปรับ Mindset ทำน้อยแต่ได้มากมีการวางเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน มีระบบวิธีแบบเอกชน ทำให้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด “ทำน้อยได้ผลงานมาก” จะได้โอกาสในการพัฒนาตนเองในหลักสูตรต่างๆ
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บรรยายพิเศษหัวข้อ นโยบายเร่งด่วนเพื่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรม กล่าวประเด็นสำคัญว่า การฝึกอบรมพัฒนาทำให้เรามีเครือข่ายในการทำงานขับเคลื่อนงานยุติธรรม เป็นการพัฒนาเครือข่ายในการทำงานร่วมกันมีเพื่อนต่างกระทรวงรวมถึงกระทรวงเดียวกัน จะต้องทำเครือข่ายมีความเหนียวแน่น ซึ่งหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับกลาง รุ่นที่ ๑๗ (ยธก.๑๗) เป็นกลุ่มคนทำงานจะต้องสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน ซึ่งนโยบายของท่านรัฐมนตรีมุ่งยุติธรรมเชิงรุกโดยให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม จึงมีการเปิดศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข สร้างความยุติธรรมลดความเหลื่อมล้ำโดยเข้าถึงปัญหาของประชาชนทุกช่องทาง แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว กระทรวงยุติธรรมจึงมีการขับเคลื่อนยุติธรรมจังหวัด กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นต้น ภารกิจของกระทรวงยุติธรรมจะมีการบูรณาการอย่างรวดเร็ว จะต้องลดความเหลื่อมล้ำไม่ว่าจะคนรวยคนจนให้การคุ้มครองโดยกฎหมายของภาครัฐ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนเป็นสำคัญ ยุติธรรมเชิงรุกสร้างสุขประชาชน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ประชาชนทำให้ความยุติธรรมสามารถจับต้องได้ นโยบายเร่งด่วนจึงเข้ามาดูแลระบบหนี้ต่างๆ เว็บเกี่ยวกับเงินกู้ต่างๆ มีการหลอกลวง แก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงป้องกัน ปราบปราม จึงเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ซึ่งงานยุติธรรมเชิงรุกมุ่งแก้ปัญหาให้กับประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขจึงดำเนินการหลายปัญหาในการช่วยเหลือประชาชน โดยมุ่งช่วยประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
จึงขอกราบในความเมตตายิ่งพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศาสตราจารย์ ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, ศาสตราจารย์ ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร ในฐานะผู้บริหารหน่วยงานสถาบันการศึกษาพระพุทธศาสนาในการสนับสนุนส่งเสริมให้มีโอกาสเรียนรู้ในหลักสูตรที่จะนำมาพัฒนางานขับเคลื่อนศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร เพื่อบริการชุมชน องค์กร สังคมเกิดสันติสุขภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น