วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

"มจร" ประชุมร่วมภาครัฐ! วางแผนงานประสาทปริญญาปี 64 "รับจริงเหลือภาคบ่าย 11-12" เท่านั้น

 


วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2564  เวลา 09.30 น. ณ หอประชุมเล็ก มวก. ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) พระเทพปรวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร,พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา,พระโสภณวชิราภรณ์รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ และผู้บริหารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมกับ นายนครินทร์ อาจหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา,ตัวแทนนายอำเภอวังน้อย,อบต.ลำไทร ร่วมกันวางแผนงานประสาทปริญญาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยประจำปีพุทธศักราช 25564ระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม 64  ซึ่งปีนี้มีผู้จบการศึกษาทั้งสิ้น 3,938 รูป/คน


ภายหลังการประชุม พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า วันนี้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เชิญสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานในท้องถิ่นมาร่วมปรึกษาหารือขอคำชี้แนะงานประสาทปริญญาประจำปี ซึ่งปีนี้มีผู้จบการศึกษาทั้งสิ้น 3,938 รูป/คน แต่เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยมีมาตรการเข้มข้นคัดกรองป้องกันเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด -19 จึงกำหนดมาตรการว่า บัณฑิตทุกระดับชั้นจะเข้ารับงานประสาทปริญญาได้ต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ยี่ห้อไหนก็ได้ ต้องมีผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และผู้ติดตามมีได้แค่ 2 ท่านต่อผู้เข้ารับปริญญาหนึ่งท่านเท่านั้น ภายใต้เงื่อนไขนี้ปีนี้จึงมีผู้รับเหลือ 1,979 รูป/คน ที่ประชุมจึงสรุปว่า

" วันที่ 8 ธันวาคม  ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงานเป็นงานสัมมนา ผู้ร่วมงานจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหมือนกับคนเข้ารับปริญญาก่อนเข้างาน จะต้องวัดอุณภูมิ,ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ,ใส่แมสตลอดเวลาและต้องเว้นระยะห่าง ส่วนวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม  เป็นวันซ้อมรับปริญญาก็เช่นเดียวกัน แต่ผลจากการประชุมคราวนี้เปลี่ยนแปลงเรื่องเวลารับปริญญาตรี เดิมเรากำหนดไว้วันที่ 11 ธันวาคม ทั้งภาคช้าและบ่าย แต่เมื่อดูจากปริมาณบัณฑิตที่จะเข้ารับแล้วมีจำนวน 1 พันต้น ๆ ที่ประชุมจึงสรุปว่าให้เหลือรับปริญญาในวันที่ 11 เหลือเฉพาะภาคบ่ายไว้เท่านั้น รวมทั้งในวันที่ 12 ธันวาคมด้วย ที่เป็นวาระของมหาบัณฑิต,ดุษฎีบัณฑิต,ดุษฎีบัณฑิตกิตติมหาศักดิ์ รวมทั้งเข็มเกียรติคุณ เป็นภาคบ่ายเช่นเดียวกัน  สรุปใจความสำคัญคือ มจร เรายึดมาตรการการจัดงานประสาทปริญญาตามหลักสากลและตามฝ่ายบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด วันรับปริญญาก็เหลือเฉพาะภาคบ่ายในวันที่ 11 และ 12 ธันวาคมเท่านั้น  คุณสมบัติทั้งคนจัดงานและคนมารับก็ต้องมีคุณสมบัติป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น  แม้เรื่องการรับประทานอาหารสาธารณสุขจังหวัดท่านอยากให้รับประทานอาหารกล่อง พร้อมทั้งขอให้ทางเราเตรียมแผนเผชิญเหตุเอาไว้ด้วย เผื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ซึ่งที่ประชุมมอบให้พระเมธีธรรมาจารย์ ตั้งวอร์รูมในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป.." 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น