วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

"ทิดสมปอง" โบกมือลา 3 รายการ"เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" ยังอ้อนฝากติดตามผลงาน



เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565  ผู้สื่อข่าวรายงายว่า นายสมปอง นครไธสง หรือ "อดีตพระมหาสมปอง หลังจากสึกออกมาอัพเดทชีวิตลุยงานเต็มที่พร้อมเผยอาศัยอยู่ที่บ้านพักของ "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล- พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย"  ได้โพสต์คลิปในเพจ "สมปอง นครไธสง" พร้อมแคปชั่นว่า "แถลงข่าวครับผม" โดยมีใจความสรุปว่า "วันนี้ขอชี้แจง รายการ 'อย่างถึงไหนถึงกัน' ทางช่อง 5, รายการ 'มาหาพาสนุก' ทางช่อง9 และรายการ 'โทรติดทิดตอบ' ทางทีวีพูลออนไลน์ ตนไม่ได้มีส่วนร่วมแล้ว  ส่วนตัวขอขอบคุณที่ทักคนติดตามมาตลอด ยังไงฝากติดตาม 3 รายการของตนด้วย

ต่อมา "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล"แถลงข่าวเปิดเผยว่า ทางทีวีพูลไม่เคยไปทาบทาม หรืออยากได้ตัวเขา (ทิดสมปอง) มาร่วมงานเลย ส่วนตัวเห็นใจเขาเหมือนเห็นลูกนกหลงทาง ไม่มีที่อยู่ จึงรับมาอยู่ในบ้านและเป็นคนในครอบครัว เพราะรู้จักกันตอนอีกฝ่ายเป็นพระ ประกอบกับตอนนี้ ตนเองมุ่งหน้าทางสายบุญและให้ลูกชายเข้ามาดูธุรกิจ

บ้านเรามีห้องว่างเยอะ จึงให้เขาเข้ามาอยู่ด้วย ช่วยรีโนเวทบ้าน และห้องเล็กที่จะทำเป็นสำนักงานของเขา หมดเงินไปประมาณ 7 แสนบาท และตอนที่เขาสึกมา ไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้า จึงโทรไปหามาให้ 3 ถุงใหญ่ โดยเขาเลือกแต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมอย่าง Lacoste ซึ่งเขาเลือกผ้าไปประมาณแสนกว่าบาท

ตนคาดหวังให้ “สมปอง” เข้าเป็นมาเป็นเพื่อนแสวงบุญ แต่เมื่อเขามีความคิดอีกแบบ จึงอยากช่วยให้เขาเป็นนักพูดระดับประเทศ แต่อีกฝ่ายอยากเลือกเส้นทางนักร้องลูกทุ่งแทน

โดยระหว่างที่เข้ามาอยู่ในบ้าน มีคนสนิทพูดเตือนตลอดว่า ระวังถูกหลอก แต่ตนเองเห็นเขาเป็นเหมือนลูกคนหนึ่ง ทำงานกลับมาดึกๆ ก็ทำไข่เจียวให้กินเอง ถ้าปวดเมื่อย จะหาคนมานวดให้

สมปองเป็นคนมีความฝันเยอะ เป็นพวกทะเยอทะยานอยากรวยเร็ว ซึ่งเราจะเตือนเขาเหมือนการปลูกต้นไม้ ต้องปลูกตั้งแต่เมล็ดเล็กๆ กว่าจะโต กว่าจะดูแลให้ต้นไม้ใหญ่โตได้ ซึ่งตัวสมปองไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลย เหมือนเป็นแค่เด็ก

สมปอง  มาพร้อมกับปัญหาเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินกว่า 10.9 ล้านบาท ตนเคยถามว่าเป็นพระทำไมมีหนี้เยอะแบบนี้ โดยเขาบอกว่าเป็นหนี้จากการซื้อที่ดิน 300 ไร่ ทำสวนยางพารา และต้องดูแลครอบครัวมีค่าใช้จ่ายเดือนละแสนกว่าบาท

นอกจากนี้ สมปอง ยังเข้าไปพัวพันวงการเงินสีเทา ติดหนี้นอกระบบอีก โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 3 แสนบาท ด้วยความเป็นห่วง จึงพยายบามช่วยเหลือด้วยการว่าจ้างเดือนละ 2.5 แสนบาท ให้ทำรายการ 3 รายการ โดยลูกชายของตนเองช่วยกันวางแผนต่างๆโดยคาดว่า “สมปอง” จะมีรายได้ปีละ 3 ล้านและจะชดใช้หนี้ได้ภายใน 1-2 ปี

ช่วงท้าย เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล บอกว่า ตนอโหสิกรรมให้สมปองแล้ว ไม่อยากฟ้องร้องให้เป็นคดีความ แต่ถ้าอันไหนจำเป็นต้องฟ้องก็ต้องฟ้องร้องกันต่อไป 

ทั้งนี้หลังจากที่ เจ๊ติ๋มทีวีพูลแถลงข่าวเสร็จ ได้มีการไลน์มายังคนสนิทติ๋มทีวีพูล ว่า ปองคิดถึงแม่ยุตลอดนะ เด่วคุยกัน

ขอบคุณเพจ ทีวีพูล TVPool,https://www.tvpoolonline.com/content/1930036

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" พาไปไหว้ พระวัดงามตามรอยพระอริยะ วัดป่าโสมพนัสสกลนคร

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ดร.นิยม เวชกามา อดีต สส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย  หรือ "ดร.มหานิยม" ในฐานะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีคนที...