เมื่อเมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.45 น.วันที่ 15 กพ.65 ที่ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะครู จำนวน 40 คน เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้ครูอย่างจริงจังจนเกิดผลเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขสถานการณ์หนี้สินครัวเรือนและประชาชนรายย่อยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบ และเป็นธรรม
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาหนี้ครูผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง ๆ ว่า ผลการดำเนินการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยกรณีเป็นลูกหนี้ปกติก็จะรับการลดอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ใช้งบประมาณของประเทศ โดยเป็นการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับครู ขณะที่หนี้ที่มีปัญหาก็มีกระบวนการในการปรับโครงสร้างหนี้อย่างเหมาะสม ที่เป็นการตกผลึกร่วมกันระหว่างเจ้าหนี้ กับสหกรณ์ และลูกหนี้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีและได้เริ่มดำเนินการแล้วประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูดำเนินการจะเป็นต้นแบบสำคัญในการขยายผลไปสู่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ ของประเทศต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ข้าราชการทั้งประเทศได้ลดภาระของหนี้ที่มีอยู่ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ในปี 2565 เป็นปีของการแก้ไขหนี้ภาครัวเรือนอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนและหนี้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการหาแนวทางให้ข้าราชการครูมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอในการใช้ชีวิตปัจจุบัน อนาคต และหลังเกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้เกิดความมั่นคงในชีวิตทั้งตนเองและครอบครัวภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ขณะที่เงินเดือนก็ไม่สามารถขึ้นให้ได้มากนัก เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการขึ้นเงินเดือน ดังนั้น จึงต้องมาแก้ไขภาระหนี้สินต่าง ๆ ที่มีอยู่ ผ่านกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมก่อน รวมถึงการตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อย่างไรก็ตามแนวทางต่าง ๆ จะสำเร็จได้ ทุกคนต้องช่วยกันแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติและการดำเนินการผ่านกลไกที่มีอยู่ โดยขอบคุณที่ทุกคนได้สานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรมในการดำเนินการแก้หนี้ครูจนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างสำคัญในการขยายไปสู่การแก้ปัญหาหนี้ให้กับข้าราชการส่วนอื่น ๆ ต่อไปด้วยทั้งในส่วนของข้าราชการพลเรือน ตำรวจ และทหาร รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้กับประชาชน ในการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนทุกมิติทั้งเรื่องสุขภาพ คุณภาพชีวิต ที่อยู่อาศัย การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การเข้าถึงบริการภาครัฐ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนเข้มแข็งด้วยตนเอง โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ และให้ใช้จ่ายให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ทั้งนี้เรื่องใดที่สามารถทำได้เร็วให้ทำก่อน ส่วนตรงไหนที่ติดขัดก็ให้เร่งปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะหากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและข้อกฎหมาย ต้องไปหารือกันอีกครั้งให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนการดำเนินการแก้ปัญหา โดยต้องไม่ให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาภายหลังอีก ทุกอย่างต้องทำเพื่อประชาชนทุกคน ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ ภาคสหกรณ์ออมทรัพย์ ภาคธนาคาร คุณครูและภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันทำงาน สนับสนุน เป็นส่วนสำคัญผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน พร้อมขอให้รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ในฐานะประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ได้สานต่อการดำเนินการและขยายผลไปยังข้าราชการในสังกัดหน่วยงานอื่น รวมทั้งการแก้ไขหนี้สินเพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น