วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

"ปลัดมท."หารือ "เอกอัครราชทูต กต." เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่สากล

 


ปลัดกระทรวงมหาดไทยหารือร่วมเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าขับเคลื่อนกลไกที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดประจำภาคและการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่สากล

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565   เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ นางสาวนิธิวดี มานิตกุล เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ในโอกาสเข้าหารือข้อราชการด้านการระหว่างประเทศและการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยมี นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน นายกฤษณะ พินิจ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและส่งเสริมบริหารราชการจังหวัด นายบุญธรรม ถาวรทัศนกิจ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมให้การต้อนรับ และหารือ



นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการต่างประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน และมีการสนับสนุนและประสานการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือการขับเคลื่อนกลไก "ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของผู้ว่าราชการจังหวัดประจำภาค" ที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกันริเริ่มไว้ เพื่อให้การประสานงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยในระดับภูมิภาคเกิดประสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน.

     นางสาวนิธิวดี มานิตกุล เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การขับเคลื่อนกลไกที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของผู้ว่าราชการจังหวัดประจำภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการต่างประเทศ บูรณาการการทำงานร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน การสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง เมืองคู่มิตร (Sister City)  การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเด็นการปฏิบัติราชการต่าง ๆ ในอนาคต



นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศในการขับเคลื่อนการดำเนินงานความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนา และการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนตามกรอบยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาจังหวัดชายแดนของไทย รวมไปถึงการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง การพัฒนาเมืองคู่มิตร (Sister City)  เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและไมตรีจิตระหว่างประเทศไทยกับมิตรประเทศ และพัฒนาความร่วมมือซึ่งกันและกัน อันจะส่งเสริมความมั่งคั่งและการพัฒนาบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกันในด้านต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและพันธกรณีระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งจะได้มีการประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อติดตามความก้าวหน้า และประโยชน์ของประเทศไทยและมิตรประเทศอย่างจริงจัง เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งด้านการทำงาน การเรียนรู้ขนบธรรมเนียม ศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ของท้องถิ่นไปสู่ต่างประเทศได้ โดยในปัจจุบันมีเมืองคู่มิตรอยู่กว่า 85 คู่

 "นอกจากนี้ ยังนับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมไปถึงนายอำเภอ และส่วนราชการในระดับพื้นที่ จะได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะด้านพิธีการทูต ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและถือเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศ ได้เข้ามามีบทบาทกับประชาชนในระดับพื้นที่เป็นอย่างมาก และในอนาคตกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการต่างประเทศจะได้ร่วมกันเผยแพร่อัตลักษณ์ของท้องถิ่นไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล เช่น ผ้าไทย สินค้า OTOP ต่าง ๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยสู่สายตาชาวโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้" นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ "ปารายนวรรค...