วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"ณพลเดช" เปิดไอเดีย! พรบ.สภาองค์กรพุทธศาสนา แก้ปัญหายาเสพติด ผันภาษีบาปสร้างการศึกษาไทย สอดรับวิสัยทัศน์ "ทักษิณ"



เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567   เวลา 17.00 น. นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เข้าสักการะหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ และนมัสการพระสุนทรปริญัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้หารือข้อธรรม เปรียบเทียบศีลธรรมชาวพุทธ และพี่น้องมุสลิม ปัจจุบันมีพี่น้องชาวไทยพุทธ ติดยาเสพติดเป็นอันมาก โดยเริ่มจากสุรา ส่งผลให้ศีลธรรมส่วนมาก หากเทียบกับพี่น้อง มุสลิมแล้ว มีความเคร่งครัดห้ามดื่มสุรา หรือเสพยาเสพติด มีการละหมาดอย่างเนื่องนิตย์  ทำให้มีเกาะคุ้มกันโดยเฉพาะเด็กเยาวชนเป็นอย่างดี ที่สัมผัสได้น่าจะเพราะพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 ที่บัญญัติและให้อำนาจการปกครองและดูแลพี่น้องชาวมุสลิมแบบไหนดี ส่งผลให้ประชาชนอยู่ในศีลในธรรม



นายณพลเดช กล่าวว่า จากที่ได้ฟัง อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวบนเวที Vision for Thailand 2024 ในหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปอย่างไร ทิศทางการเมืองไทยนับต่อจากนี้” ในตอนหนึ่ง ระบุว่าพบว่า เศรษฐกิจใต้ดินที่มีอยู่ 50% แยกเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ ยาเสพติด และ การพนันออนไลน์ มีคนบอกว่า คนไทยขาดทุนให้กับออนไลน์ต่างประเทศปีละ 1.7 แสนล้านบาท ส่วนข้อมูลในประเทศ พบว่ามียอดเงินฝากเพื่อเล่นพนันออนไลน์ 3 ล้านล้านบาท มียอดเงินที่เล่นกันรวม 5 แสนล้านบาทต่อปี หากผลักดันไปสู่การเก็บภาษีได้ 30% เราอาจทำให้รัฐจะมีเงินประมาณ 90,000 ล้านบาท และนำเงินเหล่านี้ไปต่อยอดเรื่องการศึกษาให้กับคนไทย เพื่อให้คนไทยได้เก่งขึ้น ได้พัฒนาขึ้น ในส่วนนี้ตนค่อนข้างจะเห็นด้วยในมิติ ปราบยาเสพติด และสร้างการศึกษาไทย ด้วยเงินภาษีที่หายไปจากภาษีบาป

นายณพลเดช กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวคิดของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตนเห็นว่าชาวพุทธประกอบไปด้วยพุทธบริษัท 4 อุบาสกอุบาสิกา และ ภิกษุภิกษุณี ในสัดส่วนของพระสงฆ์ไทย มีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 กำกับไว้อยู่แล้ว ส่วน อุบาสกอุบาสิกา ไม่มีกรอบกฎหมายที่ทำให้เกิดการสร้างศีลธรรมให้กับประชาชน ซึ่งต่างจากพี่น้องชาวมุสลิม ที่มี พรบ. การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม ที่ช่วยทำให้ประชาชนดูแลกันเองและทำให้กลุ่มคนอยู่ในศีลธรรมด้วยกัน มีโรงเรียนที่ส่งเสริมการศึกษาทางศาสนาได้อย่างมีรูปแบบ ตนจึงเห็นว่าอยากสร้างเครือข่าย สภาอุบาสกอุบาสิกา สภาองค์กรพุทธศาสนา หรือสภาฆราวาส 

"โดยให้หน่วยงานใดๆ เข้าไปสนับสนุนและผลักดันงบประมาณ หรือบัญญัติเป็นกฎหมาย พรบ. สภาองค์กรพุทธศาสนา ก็จะส่งผลให้มีการสั่งสอนศีลธรรม สร้างเครือข่ายคนดี ตามกฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction) เป็นหลักปรัชญาที่ได้รับการพูดถึงตั้งแต่ปี 1887 โดยสอนว่า ความคิดในแง่ดีจะดึงดูดผลลัพธ์ในเชิงบวก ส่วนความคิดในแง่ลบจะดึงดูดผลลัพธ์ในเชิงลบ เช่นกันคนดีก็จะดึงดูดคนดี และสร้างเครือข่ายคนดีได้ ถ้าตามหลักศาสนาพุทธ ก็จะอยู่ในมงคลชีวิต 38 ประการ โดยบัญญัติในข้อหนึ่งและข้อสอง ที่ระบุว่า” อเสวนา จ พาลานํ ปณฑิตานญฺจ เสวนา “นั่นแปลว่าไม่ คบคนพาลให้คบบัณฑิต หรือไปอีกทีก็คือ ละเว้นการคบเพื่อนชั่ว คบแต่เพื่อนที่ดี ทั้งนี้เมื่อมีคนดีและคนมีความรู้ความสามารถเป็นมันสมองของประเทศอยู่รวมกัน เราสามารถให้คนที่มีมันสมองที่ดีมาเป็นครูและให้ค่าจ้างแพงๆ เพื่อให้อบรมเยาวชนให้เป็นคนเก่งและดี และสร้างครูที่เป็นแม่พิมพ์ที่ดีได้" นายณพลเดช กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - จาตุมสูตร : เตือนภัยทั้งสี่ (ยังไม่สมบูรณ์)

ເນື້ອເພງ :: #ດຣສົມພົງສ໌ ທຳນອງ: - ຮ້ອງໂດຍ #suno  จาตุมสูตร  : เตือนภัยทั้งสี่ (Verse 1)  เสียงดังที่ดังมา เตือนใจให้เราระวัง ภัยทั้งสี่คือตัว...