วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

"รินโปเชลามะน้อย"ระลึกชาติได้เสด็จเยือนไทย




เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 31 ม.ค.2561  พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดสระเกศ พระเถรานุเถระมีพระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ถวายการต้อนรับ สมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก พร้อมด้วยพระธิดา และรินโปเชลามะน้อย เจ้าชายราชวงศ์ภูฏาน ที่มีพระชันษา 3 ปี ซึ่งสามารถระลึกชาติได้ พร้อมเจริญศาสนสัมพันธ์ พุทธเถรวาท - พุทธตันตรยาน ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ





ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก พร้อมด้วยพระธิดา และรินโปเชลามะน้อย เจ้าชายราชวงศ์ภูฏาน ที่มีพระชันษา 3 ปี ซึ่งสามารถระลึกชาติได้ ประทานพระวโรกาส ให้พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วยคณะสงฆ์ อีกทั้งพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เข้าถวายพระพร จากนั้นทรงเสด็จขึ้นไปสักการะบูชา พระบรมสารีริกธาตุ เป็นครั้งแรกที่ได้เสด็จมาเยือนวัดสระเกศ ณ บรมบรรพต (ภูเขาทอง) ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุ ของเดิมแท้จากกรุงกบิลพัสดุ์ ประดิษฐานคู่กับพระอารามนี้(ภูเขาทอง) กว่า 100 ปี ทั้งทรงเห็นถึงความสำคัญของเจริญศาสนสัมพันธ์พระพุทธศาสนาที่สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่โลก
       


หลังจากนั้น เจ้าชายราชวงศ์ภูฏานพร้อมคณะได้เสด็จทอดพระเนตรพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดยมีพระโสภณวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ให้การตอนรับ





รินโปเช องค์ลามะน้อย เจ้าชายพระองค์นี้  เป็นพระโอรสของเจ้าหญิง พระธิดา ของสมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก พระมเหสีองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระมาตุจฉาเจ้า (เสด็จป้า) ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "กษัตริย์จิกมี" กษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชอาณาจักรภูฏาน จึงถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญ เรื่องน่าปิติยินดียิ่ง ที่มี ท่านรินโปเช องค์ลามะน้อย ซึ่งได้กลับชาติมาเกิด ในสายกษัตริย์ ราชวงศ์ภูฏาน ซึ่งหาได้ยาก และยังได้ทรงผนวชในพระพุทธศาสนาตันตรยาน (นิกายดรุกปะกัคยุ)
     


พระอัยยิกา (ยาย) พร้อมด้วย เจ้าชายลามะน้อย ได้เคยเสด็จฯ เยือนที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดียทรงเล่าว่า รินโปเช องค์ลามะน้อยทรงจำได้ว่า เคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย เมื่อ ๘๒๔ ปีก่อน และทรงจำสถานที่ต่างๆ ได้แม่นยำ แม้แต่ห้องเรียนของพระองค์เอง จึงเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่งนัก ทรงปฏิสันถาร กับคณะสงฆ์ และคณะบุคคล อย่างอบอุ่น ถือเป็นนิมิตหมาย อันเป็นมหามงคลยิ่ง ที่รินโปเช องค์ลามะน้อย เจ้าชายแห่งราชวงศ์ภูฏาน จักได้เป็นกำลังสำคัญแห่งพระพุทธศาสนาทั้งเถรวาท-ตันตรยาน เพื่อสร้างความร่มเย็นให้แก่พุทธศาสนิกชน และสันติภาพแห่งโลก


................

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจาก พระวิสุทธิศาสนวิเทศ  กองงานวิสุทธิศาสนวิเทศวัดสระเกศ)

2 ความคิดเห็น:

  1. เป็นปลื้มมากๆ ขอถวายการต้อนรับด้วยความเคารพ สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  2. 🙏🙏🙏กราบอนุโมทนา สาธุเจ้าค่ะ กราบถวายการต้อนรับองค์ลามะน้อยด้วยความเคารพและปลาบปลื้มใจ กราบสาธุเจ้าค่ะ

    ตอบลบ

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...