วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

ฉุน!"บิ๊กตู่"สั่งคุมงบอุดมศึกษาตลาดไม่ต้องการ ยกวิชา "ปรัชญา"มีค่ายามถกเถียง




เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2561ที่ผ่านมา นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 1111/393 เรื่องข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
         


ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ได้นำเสนอกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา เพื่อทราบความเห็น เรื่องโครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก (ทุนพัฒนาอาจารย์) พ.ศ.2561-2580เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
         


ในการนี้นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเพิ่มเติมจึงใคร่ขอแจ้งข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรีมาเพื่อโปรดทราบและโปรดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยท่านนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
         


1.ให้ศึกษาในประเด็นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อนวัยเรียน/ประถม/มัธยม ให้ได้คนที่มีศักยภาพ ตรงความต้องการของประเทศอย่างไรผู้ที่เข้าอุดมศึกษา/สาขาที่ต้องการได้อย่างไร/ส่วนหนึ่งไปอาชีวะ ได้ปริญญาอย่างไร เพื่อสร้างความชัดเจนให้สังคม ประชาชน/ผู้ปกครองสนใจ
         


2.กรณีการสนับสนุนงบประมาณให้อุดมศึกษา ให้ควบคุมสาขาที่ไม่มีงานทำ/ไม่ตรงความต้องการ การลดเงินอุดหนุนหรือไม่ให้ เช่น จีน ทำเหตุผล จบมาไม่มีงานทำ แต่ต้องใช้หนี้ กยศ./ปัญหาต่อเนื่อง
         


นายอรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Athapol Anunthavorasakul ถึงเรื่องนี้ ว่า นี่คือการคิดแบบเอาตลาด และโลกพังๆ ที่เป็นอยู่ เป็นตัวตั้งในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง แนวคิดแบบเสรีนิยมใหม่สุดโต่งที่คิดอะไรเป็นตัวเลข ต้องการเห็นผลทันใจ มองประโยชน์ระยะสั้น ไม่เห็นการลงทุนระยะยาวในการพัฒนาสังคม และที่สำคัญนี่คือเรื่องการศึกษา ถ้าจะไม่สนับสนุนสาขาที่บัณฑิตจบไปไม่ตรงความต้องการตลาด สาขาวิชาทางมนุษยศาสตร์คงโดนหนักก่อน
         


สาขาวิชาอย่างปรัชญา วรรณคดี นั้นหากพิจารณาผิวเผิน อาจดูไม่มีมูลค่าทันทีเชิงการตลาด แต่เวลาสังคมต้องการการถกเถียงทางความคิด เราก็พบว่าเพราะตรรกะมันบิดเบี้ยว เพราะละเลยไม่ร่ำเรียนปรัชญา ไม่ฝึกตั้งคำถาม ไม่มีการฝึกวิเคราะห์กรอบคิด ไม่มีการฝึกการใช้เหตุผลในการถกเถียง ฯลฯ สาขาวิชาอย่างวรรณคดี คือต้นทุนทางวัฒนธรรม ไม่ได้เห็นผลทันทีทันใจ แบบว่าเรียนจบปุ๊ปเป็นนักเขียนดังปั๊ป แต่ภาพยนตร์ชุดอย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ ลอร์ดออฟเดอะริง ซีรีย์ อย่าง เกม ออฟ โทรน ที่ทำรายได้ให้อุตสาหกรรมสื่อ สิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครเวที เป็นหมื่นๆ ล้านเหรียญ ก็มาจากการสั่งสมความรู้ทางวรรณคดีของสังคมที่ฟูมฟักให้เกิดนักเขียน คนเขียนบท ฯลฯ
         


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...