การทำบุญคือการสร้างสันติภาพภายใน-นอกสอดคล้องแนวคิด"โยฮัล กันตุง"
การทำบุญหรือการกระทำความดีในพระพุทธศาสนานั้นมีหลายวิธีที่เข้าใจกันง่ายๆก็คือไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา ขยายออกไปอีกคือ มรรคมีองค์แปด ขยายออกไปอีกคือบุญกริยาวัตถุ ๑๐ เห็นคนทำความดียินดีด้วยก็เป็นบุญประการหนึ่ง เพราะเราไม่อิจฉาความดีเขา สอดคล้องกับโอวาทปาฏิโมกข์คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง(ต้องทั้งป่วง) ทำกุศลให้ถึงพร้อม(อย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ได้) และทำจิตให้ผ่องใส พร้อมกันนี้การทำบุญนั้นบุญเกิดขึ้น ๓ ช่วงคือก่อนทำ(เป็นการป้องกันและการละสิ่งที่ไม่ดี) ขณะทำ (ทำให้เกิดขึ้น) และหลักทำ(คือการรักษา)
เมื่อคนทำบุญเช่นนี้ทำย่อมใช้ตนเองมีความสงบภายในหรือเรียกว่าเกิดสันติภาพภายใน เพราะไม่ได้สร้างความขัดแย้ง รุนแรงและสงครามกับใคร ขณะเดียวกันการให้ทานหรือการแบ่งปั้นเป็นการสร้างสันติภาพภายนอก เพราะหากเรามีกินคนเดียวกลุ่มเดียวปล่อยให้อีกกลุ่มอดยากก็ย่อมจะเกิดการจี้ปล้นซึ่งก็โทษเขาไม่ได้เพราะเขาไม่มีกิน ซึ่งก็โทษคนที่มีกินด้วยเช่นกันที่ไม่รู้จักการป้องกัน
จากหลักการทำบุญดังกล่าวนั้นแล้วสอดคล้องกับแนวคิดในการสร้างสันติภาพของ "โยฮัน กัลตุง" นักสื่อสารเพื่อสันติภาพชาวนอร์เวย์ ตรงไหน ซึ่ง "โยฮัล กันตุง" บอกว่าการสร้างสันติภาพนั้นมี ๓ ขั้นตอนคือ การสร้างให้เกิดขึ้น สร้างแบบสร้างสรรค์ และการรักษา ซึ่งก็ตรงกับหลักโอวาทปฏิโมกข์ ตรงอย่างไร แนวคิดของ "โยฮัน กัลตุง"ที่ว่า การสร้างให้เกิดขึ้นและสร้างแบบสร้างสรรค์ ซึ่งก็เข้ากันได้กับการไม่ทำบาปทั้งปวง(ต้องทั้งป่วง) ทำกุศลให้ถึงพร้อม ส่วนการรักษาก็เข้ากันได้กับทำจิตให้ผ่องใส เมื่อคนมีจิตให้ผ่องใสย่อมจะรักษาความดีไว้ได้อย่างแน่นอน
และก็เข้ากันได้กับหลักธรรมปธาน ๔ ซึ่งพระมหาหรรษา ธฺมมหาโส รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผอ.หลักสูตรสันติศึกษาได้เสนอเป็น ๓ กระบวนการคือ ๑.การป้องกัน (Prevention) ๒.การเปลี่ยนผ่าน (Transformation) และ ๓.การแก้ไข (Resolution) แต่หากต้องการที่จะเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องสันติภาพมากขึ้นวันที่ 21 กันยายนที่จะถึงนี้เป็นวันสันติภาพโลก ทางหลักสันติศึกษา มจร ได้จัดงานที่ มจร วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานในพิธี และปาฐกถาพิเศษโดย ศ.ดร.พระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร และมอบรางวัล "ลมหายใจแห่งสันติภาพ" แก่นักสันติภาพที่ทุ่มเทกายใจรับใช้ชุมชน ทั้ง 4 คน คือ นายโจน จันได ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ นายปัญญา โตกทอง และ ดร.เกษร วงศ์มณี รวมไปถึงการฟังลมหายใจจากนักการศาสนาและนักสันติภาพในเวทีสันติเสวนา ก็มาร่วมงานได้
หรือต้องการที่จะสร้างสันติภาพภายในก่อนจะถึงวันที่ 21 กันยายนก็สามารถเดินทางไปร่วมงานอายุวัฒนมงคง ๖๑ ของพระพรหมบัณฑิตในวันที่ ๑๖ ก.ย.ที่วัดประยูรวงศาวาส และวันที่ ๑๗ ก.ย.ที่ มจร อ.วังน้อย โดยจะมีการเปิดศาลทรงไทยการปลูกต้นไม้และการมอบทุนการศึกษาแต่พระนิสิต นิสิตที่ศึกษาใน มจร ก็สามารถร่วมทำบุญได้
หากทำเช่นนี้มนุษย์รอดอย่างแน่นอน ไม่ใช่คิดแต่จะทำสงคราม(วัฒนธรรม) หรือบูชายัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น