วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562

กลุ่มทำเหมืองแร่ชูนวัตกรรม“โคกหนองนาโมเดล”ปรับช่วยเกษตรกร



กลุ่มผู้ประกอบการเหมืองแร่เสนอ 2 กระทรวงเศรษฐกิจร่วมคลี่คลายความเดือดร้อน  แนะปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปิดทางทำธุรกิจที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ   ชูนวัตกรรม “โคกหนองนาโมเดล”ช่วยเกษตรกรในพื้นที่ได้ประโยชน์สูงสุด แถมปลดล็อก ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างสนับสนุนแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์

นายวิจักษ์ พงษ์เภตรา ประธานกรรมการกลุ่มเซ้าเทิร์น - บริษัท โชคพนาไมนิ่ง จำกัด เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ตนและผู้ประกอบการเหมืองแร่เกือบ10รายได้ร่วมกันทำหนังสือถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   เสนอให้สองกระทรวงเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการอื่นในพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเหมืองแร่ที่ธุรกิจต้องหยุดชะงักเพราะนโยบายของรัฐบาลและคำสั่งในยุค คสช.

ในรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากการเลือกตั้ง ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้กล่าวไว้ว่ากรณีการขออนุญาตสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่ส.ป.ก. นั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี  โดยกลุ่มผู้ประกอบการเห็นว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้ควรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายส.ป.ก.  ที่กิจการอื่นนั้นจะต้องเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนภาคเกษตรกรรม  ต้องช่วยปรับปรุงทรัพยากรและปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร  ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด  รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศ   จึงเสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯในการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว

นอกจากนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบฯยังได้นำเสนอนวัตกรรมการสำรวจและทำเหมืองแร่เพื่อเกษตรกรรมในชื่อ “โคกหนองนาโมเดล” เพื่อตอบโจทย์ในทุกคำถามว่า  ต่อไปการทำเหมืองแร่นอกจากจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่กระทบระบบนิเวศน์แล้ว  ยังต้องมีการออกแบบเพื่อประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อภาคเกษตรกรรมและตัวเกษตรกรในพื้นที่ด้วย  อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายบ่อน้ำขุมเหมืองที่จะเป็นแก้มลิงป้องกันน้ำท่วมและช่วยบรรเทาภัยแล้งในหน้าแล้ง

“โคกหนองนาโมเดล”ปัจจุบันมีตัวอย่างปรากฎแล้วในโครงการเหมืองลี้มีรัก ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน  และโครงการเหมืองแม่ทาน ที่อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ดำเนินการโดยบริษัท เอสซีจีซิเมนต์ จำกัด

นายวิจักษ์กล่าวด้วยว่า  การทำเหมืองในเขตส.ป.ก.สำหรับผู้ประกอบการใหม่จะช่วยให้มีแหล่งหินอุตสาหกรรมเพียงพอในทุกภูมิภาคเพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง  นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและรายได้ภาครัฐทางด้านภาษีและค่าภาคหลวงแร่  เพราะสินแร่หลายชนิดมีมูลค่าเชิงพาณิชย์มหาศาล อาทิ หินปูนและยิปซัม มีรายได้จากการขายรวมอุตสาหกรรมกลุ่มปูนซีเมนต์ปีละประมาณ 2.4 แสนล้านบาท   แร่โดโลไมท์ สร้างรายได้จากการขายรวมอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจแก้วและกระจกปีละประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท
  
Cr.https://www.thaitimenews.com/content/8922 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระปลัดสรวิชญ์ อภิปัญโญ สะท้อนศักยภาพคณาจารย์ มจร บนเวทีความร่วมมือทางวิชาการระดับนานาชาติ

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและบทบาททางวิชาการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ในบริบทเวทีโลก: กรณีศึกษาการแต่งตั้งพระปลัดสรวิชญ์ อภ...